วันนี้ (24 ธ.ค.2566) หน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานเเละรักษาฝั่ง 491 นำเรือยางท้องแข็ง เข้าให้ความช่วยเหลืออุบัติเหตุเรือสปีดโบต "บันดาหยา 19" ที่ล่มอยู่บริเวณเกาะบูบู หรือ เกาะซาวัง จ.สตูล ขณะเดินทางออกจากเกาะหลีเป๊ะมุ่งหน้าไป เกาะลันตา จ.กระบี่ สาเหตุเบื้องต้น เกิดจากเรือกระแทกคลื่น จนท้องเรือทะลุ น้ำไหลทะลักเข้าเรืออย่างรวดเร็ว เหตุการณ์นี้ช่วยนักท่องเที่ยวไว้ได้ทั้ง 73 คน ในจำนวนนี้มีเด็ก 3 คน และลูกเรือ 4 คน ทุกคนปลอดภัย
ทัพเรือภาค 3 เร่งค้นหาผู้สูญหายเรือล่ม จ.กระบี่
ส่วนกองเรือภาค 3 ยังส่งเรือตรวจการณ์ 995 พร้อมเครื่องบินทหารเรือ บินลาดตระเวณ ค้นหาผู้สูญหาย 2 คน จากเหตุเรือนำเที่ยว "สวรรค์ทัวร์" ล่ม ที่บริเวณ เกาะตอริล่า ห่างจากหมู่เกาะสุรินทร์ 4.7 ไมล์ทะเล หรือประมาณ 8.7 กิโลเมตร ใกล้กับตำบลเกาะพระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงา
นอกจากปฏิบัติการทางอากาศ ยังมีทหารเรือประจำหน่วยรักษาความปลอดภัยเกาะสุรินทร์ ใช้เรือยางออกติดตามค้นหาอีก 2 ลำ โดยตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา สภาพอากาศมีคลื่นลมพัดแรง ทำให้ต้องหยุดติดตามค้นหาเป็นช่วงๆ
วันพรุ่งนี้ (25 ธ.ค.) ผวจ.พังงา จะประชุมหารือร่วมกับเจ้าท่าภูมิภาค 5 สาขาพังงา รวมถึงเจ้าของเรือ และนายท้าย เพื่อตรวจสอบสาเหตุอย่างละเอียด เบื้องต้นทราบว่า เรือที่ประสบเหตุ ขึ้นทะเบียนถูกต้องมีประกันความเสียหาย โดยทางบริษัทนำเที่ยว ได้ทำประกันคุ้มครองครอบคลุมถึงผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต
เร่งค้นหาลูกเรือประมงจมกลางทะเล จ.ตราด
ส่วนอุบัติเหตุเรือประมงถูกคลื่นซัดเรือจม ระหว่างเกาะคลุ้มและเกาะรัง อ.เกาะช้าง จ.ตราด เมื่อเช้ามืดวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล.จังหวัดตราด
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ยังคงนำเรือ และเจ้าหน้าชุดประดาน้ำ ออกค้นหา นายชยพล แซ่อ๋อง อายุ 54 ปี ไต้ก๋งเรือศิรวิชนำโชค และลูกเรือรวม 6 คน โดยช่วงบ่ายที่ผ่านมาต้องยุติการค้นหาชั่วคราว เนื่องจากกระแสลม และคลื่นที่รุนแรง
เรือประมง ศิรวิชนำโชค เป็นเรือวางลอบปู ขนาด 40-50 ตันกรอส ขาดการติดต่อเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 22 ธ.ค. เจ้าของเรือได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้ช่วยค้นหา จนกระทั่งพบจุดที่เรือจมเมื่อวานนี้ แต่ไม่พบไต้ก๋งเรือและลูกเรือทั้ง 6 คน
อุทยานฯ ทางทะเลกระบี่ปักธงแดงเตือน
สถานการณ์คลื่นลมแรงในระยะนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี ปักธงแดง บริเวณเกาะไม้ไผ่ หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลทุกแห่ง ห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำอย่างเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัย พร้อมออกประกาศแจ้งเตือนประชาชน นักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการนำเที่ยว เรือนำเที่ยว เฝ้าระวังอันตรายจากทะเลมีคลื่นลมแรง ให้เตรียมพร้อมอุปกรณ์ช่วยชีวิตเสื้อชูชีพประจำเรือให้เพียงพอกับจำนวนผู้โดยสาร
ส่วนฝั่งทะเลอ่าวไทย ท้องฟ้าครึ้ม ในทะเลมีคลื่นลมแรง ส่งผลให้เรือสำราญขนาดใหญ่ 2 ลำ ที่นำนักท่องเที่ยวพร้อมลูกเรือมาลอยลำ เพื่อขึ้นท่องเที่ยวพักผ่อนบนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี กว่า 5,000 คน ต้องยกเลิกขึ้นฝั่ง ขณะที่เรือเฟอร์รี่ยังให้บริการ แต่ต้องเพิ่มความเข้มป้องกันอันตราย จำกัดน้ำหนักเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร
พัทยายังปักธงแดงห้ามเรือเล็กออกทะเล
ส่วนที่ จ.ชลบุรี บริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย อ.บางละมุง เจ้าท่าสาขาพัทยา ยังคงชักธงแดงขึ้นเสา ห้ามเรือสปีดโบต เรือนำนักท่องเที่ยวขนาดเล็กออกทะเลเด็ดขาด เนื่องจากมีคลื่นลมแรง นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปกลับยังเกาะล้าน วันนี้ต้องขึ้นเรือโดยสารขนาดใหญ่เท่านั้น เจ้าหน้าที่เน้นย้ำให้นักท่องเที่ยวสวมเสื้อชูชีพตลอดการเดินทาง
ส่วนความคืบหน้าเรือสปีดโบ๊ต ที่ถูกคลื่นล่มตรงข้ามกับเขตปลอดจอมเทียน ห่างชายฝั่งประมาณ 4 ไมล์ทะเล เมื่อคืนวันที่ 23 ธ.ค. ตำรวจสอบสวนคนขับเรือ ให้การอ้างว่าขับเรืออยู่แถวชายหาดจอมเทียน จึงไม่ทราบว่ามีการขึ้นธงแดง ที่อยู่บริเวณแหลมบาลีฮาย เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีคนขับเรือ ในข้อกล่าวหากระทำการอันประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ส่วนเจ้าของเรือชาวรัสเซีย ได้นำหลักฐานเรือมาแสดงถูกต้อง พร้อมกับแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการออกค่ารักษาพยาบาลให้ผู้รับบาดเจ็บทั้งหมด
อ่านข่าวอื่น :
ระทึก อพยพนักท่องเที่ยว 70 ชีวิตกลางทะเล หมู่เกาะอ่างทอง