กรณีคดีชายวัย 35 ปี ก่อเหตุฆาตกรรม พ่อและน้องสาว โดยยัดใส่กล่องเหล็กผลักลงน้ำและเสียชีวิต ที่จ.สกลนคร ถือว่าเป็นคดีที่สะเทือนขวัญสังคมอีกคดี
วันนี้ (10 ม.ค.2567) ตำรวจควบคุมตัว นายวรุตน์ เดชภูมี ไปพบจิตแพทย์ ที่โรงพยาบาลพังโคน เพื่อตรวจอาการทางจิตเวช หลังมีข้อมูลว่านายวรุตน์ เคยมีประวัติรักษาด้านจิตเวช ที่โรงพยาบาลใน จ.นครพนม เมื่อ 3 ปีก่อน ก่อนจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสกลนคร ในข้อหาฆาตกรรมบุพการีและผู้อื่นโดยไตร่ตรองด้วยความทรมาน
กล่องเหล็ก 2 กล่อง ที่ผู้ก่อเหตุสั่งทำพร้อมแท่นวาง ถูกนำมาเก็บไว้ ที่สภ.พังโคน สังเกตที่กล่อง มีล้อ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตำรวจเชื่อว่า ผู้ก่อเหตุลงมือคนเดียว สั่งทำกล่องเหล็กติดล้อ เพื่อให้เข็นลงน้ำได้สะดวก
ตำรวจนำกล่องเหล็กมาไว้ที่สถานีตำรวจ
พ.ต.อ.โชคชัย อินทะนิน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร ระบุว่า คดีนี้ไม่ซับซ้อน ผู้ก่อเหตุวางแผนมาก่อน โดยอ้างว่า จะประกอบอาชีพตกปลา พ่อเชื่อว่า ลูกจะทำมาหากิน จึงตามมาที่สระน้ำ
อ่านข่าว จับหนุ่มฆ่า "พ่อ-น้องสาว" ยัดกล่องเหล็กถ่วงน้ำ จ.สกลนคร
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุให้พ่อและน้องสาว เข้าไปทดลองนอนในกล่องเหล็ก อ้างว่าจะทำคอนเทนต์ ก่อนจะล็อกกุญแจ และผลักกล่องเหล็กที่มีพ่อ และน้องลงน้ำ จนทำให้ทั้งสองคนเสียชีวิต
หลอกพ่อว่าถ้าอยู่ในกล่องเหล็ก ฟิวเจอร์บอร์ดถ้าสัมผัสร่างกายจะพองตัวขึ้น ให้พ่อ-น้องสาวไปลองนอน พ่อเชื่อไม่คิดว่าลูกจะก่อเหตุ
พ.ต.อ.โชคชัย อินทะนิน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร
ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุ พบว่าที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุมีปัญหากับพ่อมาตลอด จนช่วงที่แม่เสียชีวิต เมื่อเดือนต.ค.2566 และมีการแบ่งทรัพย์สิน ซึ่งเป็นเงินประกันชีวิตของแม่ เกือบ 1 ล้านบาท ผู้ก่อเหตุอ้างว่า พ่อแบ่งทรัพย์สินให้น้อง ที่เป็นเด็กพิเศษมากกว่า จึงไม่พอใจนำไปสู่การวางแผนมาตกรรม
ขณะที่ญาตินิมนต์พระสงฆ์ มาประกอบพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณ บริเวณหนองหลุมหิน จุดเกิดเหตุ ตามความเชื่อ
ท่ามกลางการสังเกตการณ์ของชาวบ้าน นายพงษ์พัฒน์ อินธิจันทร์ ผญบ.บ้านสร้างขุ่ย ต.พังโคน อ.พังโคน จ.สกลนคร ที่เล่าว่า ก่อนหน้านี้ เข้าใจว่า กล่องเหล็กที่ถูกวางไว้บนแท่น เป็นส่วนหนึ่งของระบบผลิตประปาที่หมู่บ้าน ไม่คิดว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ฆาตกรรม ยิ่งสร้างความสะเทือนใจให้ชาวบ้าน
เข้ามาที่จุดผลิตน้ำประปา หลังจากรับแจ้งว่าพบเหมือนคนมาติดตั้งและพบแท่นเหล็ก กล่อง 2 กล่อง เข้าใจว่าเป็นการติดตั้งระบบประปา
ญาติของผู้เสียชีวิตวิคราะห์ปมเหตุฆาตกรรมพ่อ-น้องสาว
ญาติเผยผู้ก่อเหตุเคยทำร้ายพ่อ
ญาตินำอัฐิของนายประหยัด และน.ส.เพียงเพ็ญ ไปประกอบพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศล ที่วัดรามวิทยาลัย ในอ.วาริชภูมิ หลังประกอบพิธีฌาปณกิจ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (9 ม.ค.) หรือหลังเกิดเหตุทันที เพราะญาติเชื่อว่า เป็นการเสียชีวิตกะทันหัน
พี่ชายของนายประหยัด ผู้เสียชีวิต และเป็นลุงของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ผู้ก่อเหตุเคยทำร้ายพ่อมาแล้ว เมื่อ 3 ปีก่อน ด้วยการใช้ขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตีศีรษะพ่อ ซึ่งครั้งนั้นญาติพาพ่อไปแจ้งความ และพาผู้ก่อเหตุไปรักษาอาการทางจิต
จนแม่ผู้ก่อเหตุ เสียชีวิตเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นญาติเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติของผู้ก่อเหตุ เช่น ไม่เดินทางไปร่วมงานศพแม่ และได้เตือนนายประหยัด ผู้เป็นพ่อ ให้ระวังตัวมาตลอด
อ่านข่าว วิเคราะห์ ปูมหลังผู้ก่อเหตุสะเทือนขวัญ จาก "ไอซ์ หีบเหล็ก - กล่องเหล็กถ่วงน้ำ"
ญาติของผู้เสียชีวิตวิคราะห์ปมเหตุฆาตกรรมพ่อ-น้องสาว
ไม่เปิดปากแรงจูงใจฆ่าพ่อ-น้องสาว
ครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุ มีรายได้จากการทำธุรกิจหอพัก ญาติบอกว่า หอพัก 3 ชั้นแห่งนี้ เป็นมรดกของครอบครัว ตั้งชื่อหอพักตามชื่อลูกสาว คือหอพักเพียงเพ็ญ แต่ทั้งครอบครัวไม่ได้มาอาศัยอยู่ที่หอพัก และไม่ได้เข้ามาดูแลด้วยตัวเอง โดยว่าจ้างญาติให้ดูแลแทน
ผู้ดูแลหอพัก สังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพ่อและลูกชาย ที่มักพูดคุยกันผ่านทางไลน์ ไม่คุยกันต่อหน้า และที่ผ่านมาเริ่มเห็นพฤติกรรมก้าวร้าว รุนแรงของผู้ก่อเหตุ แต่ไม่คิดว่า จะเกิดความสูญเสีย
เขาคุยกับทางไลน์ และหาว่าพ่อเรียกร้องความสนใจและต้องทำงานหนัก และหาว่าพ่อเรียกร้องความสนใจ พ่อเลยปิดไลน์และเปิดใหม่ และมีแววว่าจะรุนแรงแต่ไม่คิดว่าจะมากขนาดนี้
ครอบครัวทำบุญเก็บอัฐิพ่อ-น้องสาวที่ถูกลูกก่อเหตุฆาตกรรมยัดกล่องเหล็กถ่วงน้ำ
ผู้ก่อเหตุไม่ยอมเปิดเผยแรงจูงใจในการก่อเหตุ แต่ตำรวจสอบสวน เชื่อว่า ผู้ก่อเหตุไม่พอใจ และน้อยใจพ่อ กลัวว่าพ่อจะแบ่งทรัพย์สินให้น้องมากกว่า
สอดคล้องกับญาติ ที่เชื่อว่า ผู้ก่อเหตุน้อยใจที่พ่อรักน้องสาวมากกว่า แต่ญาติเชื่อว่าอาจจะเกี่ยวกับอาการทางจิตด้วย
ขณะที่ตำรวจยังไม่นำประวัติการรักษามาประกอบในสำนวน เพราะผู้ก่อเหตุไม่ได้ร้องขอ และรับสารภาพว่า ขณะก่อเหตุมีสติ รู้ตัวดีตำรวจจึงควบคุมตัวส่งฝากขัง โดยญาติไม่ประกันตัว
อ่านข่าว