วันนี้ (20 ก.พ.2567) จากกรณีสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และกรมชลประทาน ดำเนินโครงการอุโมงค์ผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง อ.บ่อพลอย ห้วยกระเจา เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี มาตั้งแต่ปี 2566
โดยได้จัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้วเสร็จ และส่งให้คณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.) ตรวจสอบ
ล่าสุด วันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ระบุถึง ความคืบหน้า กรณี “คัดค้านการผ่านรายงานการสร้างอุโมงค์ผันน้ำเขื่อนศรีนครินทร์” ว่า
เนื่องจาก มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้คัดค้านการผ่านรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการอุโมงค์ผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์เพื่อบรรเทาภัยแล้ง จ.กาญจนบุรี ของกรมชลประทานและสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2566 ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
1.พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของเสือโคร่ง เลียงผา เก้งหม้อ ละองละมั่ง แมวลายหินอ่อน กระทิง วัวแดง ช้างป่า และพบว่าพื้นที่ก่อสร้างมีลักษณะเป็นภูเขาสูง มีพื้นที่ด้านเหนือและด้านตะวันตกอยู่ใน อ.ศรีสวัสดิ์
ถัดไปด้านตะวันออกเป็นที่ราบเชิงเขาอยู่ใน อ.บ่อพลอย หนองปรือ เลาขวัญ และห้วยกระเจา พื้นที่โดยรอบเป็นพื้นที่เกษตรกรรมซึ่งมีปัญหาเรื่องสัตว์ป่าออกนอกพื้นที่ เช่น ช้างป่า หากมีการขุดเจาะอุโมงค์อาจเป็นการเพิ่มโอกาสให้เกิดสัตว์ป่าออกนอกพื้นที่มากขึ้น และเพิ่มปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับสัตว์ป่า
2.โครงการยังไม่ได้มีการเข้ามาหารือกับมูลนิธิสืบนาคะเสถียรอย่างเป็นทางการ ตามที่คณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ ได้เสนอแนะ
3.โครงการไม่ได้มีการลงพื้นที่ศึกษาสำรวจตามแนวขุดเจาะอุโมงค์ ตามทางเลือกที่ 1 และ 7 มีเพียงการใช้ข้อมูลทุติยภูมิประกอบการทำรายงาน และการดำเนินโครงการดังกล่าวต้องมีการสำรวจ เก็บข้อมูลด้านนิเวศวิทยาป่าไม้ สัตว์ป่า สภาพธรณีวิทยา และสภาพภูมิประเทศ เพื่อจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งการใช้ข้อมูลทุติยภูมิอาจทำให้ขาดข้อมูลสำคัญที่ควรนำมาวิเคราะห์ผลกระทบ และวิเคราะห์แนวทางในการแก้ไขผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอย่างละเอียดถี่ถ้วน
4.โครงการควรศึกษาวิจัยผลกระทบต่อสัตว์ป่าในโครงการก่อสร้างอุโมงค์ผันน้ำแม่แตง-แม่งัด-แม่กวง จังหวัดเชียงใหม่ ของกรมชลประทาน ให้เสร็จเรียบร้อยก่อน เพื่อวิเคราะห์ระดับคลื่นความถี่ของความสั่นสะเทือนจากการขุดเจาะอุโมงค์ว่าระดับความลึกของการขุดเจาะจะมีผลกระทบต่อสัตว์ป่าขนาดใหญ่หรือไม่ และนำเข้าการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ อีกครั้งก่อนผ่านรายงาน
5.หากดำเนินการขุดเจาะอุโมงค์ ตามทางเลือกที่ 1 และ 7 จะตัดผ่านกลางเขตพื้นที่รักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ผ่านลุ่มน้ำชั้น 1A เพื่อผันน้ำไปลงอ่างเก็บน้ำลำอีซู พื้นที่ตามแนวอุโมงค์เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าที่จะได้รับผลกระทบโดยตรง ทั้งจากเครื่องจักรและคนที่เข้าไปทำการสำรวจพื้นที่หากดำเนินการจะเป็นการรบกวนถิ่นอาศัยของสัตว์ป่าอย่างรุนแรง รวมทั้งอาจมีปัญหาการเข้าบำรุงรักษาในพื้นที่แนวอุโมงค์
6.กรมชลประทาน และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ยังมีทางเลือกอื่นที่จะสามารถบรรเทาปัญหาภัยแล้ง จ.กาญจนบุรี โดยไม่ต้องใช้ทางเลือกที่ส่งผลกระทบต่อที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าโดยตรง และควรดำเนินการเลือกพื้นที่เหมาะสมนอกพื้นที่คุ้มครอง
สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ทำจดหมายตอบกลับส่งถึงประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ลงวันที่ 31 ม.ค.2567 โดยนำข้อความกังวลดังกล่าวเสนอคณะกรรมการผู้ชำนาญการ พิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในการประชุมครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2567
โดยคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ มีมติยืนยันตามมติคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ เมื่อคราวประชุมครั้งที่ 26/2566 เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2566 ให้นำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินการปรับปรุง แก้ไข รายละเอียดข้อมูลตามความเห็นของคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ แล้วเสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เพื่อให้ความเห็นประกอบการพิจารณาของรัฐมนตรีต่อไป
เนื่องจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ ได้พิจารณาตามหลักวิชาการอย่างรอบคอบและครบถ้วนในทุกมิติแล้ว พร้อมทั้งมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการแจ้งกรมชลประทานและสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติในฐานะเจ้าของโครงการเพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ที่มาของโครงการ
โครงการอุโมงค์ผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง อ.บ่อพลอย ห้วยกระเจา เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี
สภาพปัญหา
เนื่องจาก อ.บ่อพลอย อ.ห้วยกระเจา อ.เลาขวัญ อ.หนองปรือ และอ.พนมทวน เป็นพื้นที่ที่ประสบภัยแล้ง ซ้ำซากของ จ.กาญจนบุรี จึงส่งผลให้ราษฎรประสบปัญหาภาวะขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค เป็นอย่างมาก และด้วยข้อจำกัดด้านสภาพภูมิประเทศที่ไม่สามารถพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ได้ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์มาช่วยเหลือพื้นที่ดังกล่าว
ลักษณะโครงการ
ก่อสร้างอุโมงค์ผันน้ำบริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ไปยังอ่างเก็บน้ำลำอีซู (ขยาย) พร้อมวางระบบส่งน้ำไปยังพื้นที่รับประโยชน์ในเขต อ.บ่อพลอย (ฝั่งตะวันออกของลำตะเพิน) อ.ห้วยกระเจา และ อ.เลาขวัญ มีรายละเอียดดังนี้
- อุโมงค์ผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ – อ่างเก็บน้ำลำอีซูขยาย (ขยาย) ขนาดอุโมงค์ ø4.20 เมตร ความยาวอุโมงค์ 20,500 เมตร
- ระบบส่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำอีซูขยาย (ขยาย) – บ่อพักน้ำหลุมรัง ท่อส่งน้ำเหล็กเหนียว ขนาดท่อ ø2.50 เมตร ความยาวท่อ 14,195เมตร
- บ่อพักน้ำหลุมรัง ขนาด 651 ไร่ ความลึกน้ำ 4.00 เมตร ความจุบ่อพักน้ำ 3.70 ล้านลูกบาศก์เมตร
- ระบบส่งน้ำจากบ่อพักน้ำหลุมรังไปยังพื้นที่รับประโยชน์ คลองส่งน้ำดาดคอนกรีต ความกว้างก้นคลอง 3.00 เมตร ความลึก 2.20 เมตร ความยาวคลองรวม 94.165 กิโลเมตร
ประโยชน์ที่ได้รับ
1.ปริมาณน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค ในพื้นที่ อ.บ่อพลอย ห้วยกระเจา และเลาขวัญ จ.กาญจนบุรี 2.90 ล้าน ลบ.ม./ปี
2.ปริมาณน้ำเพื่อบรรเทาความขาดแคลนน้ำสำหรับทำการเกษตรในพื้นที่ อ.บ่อพลอย (ฝั่งตะวันออกของลำน้ำลำตะเพิน) อ.ห้วยกระเจา และ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี 486,098 ไร่
แผนงานก่อสร้าง
โครงการ 5 ปี (พ.ศ. 2568-2572)