วันนี้ (21 มี.ค.2567) นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงการจัดงานปี๋ใหม่เมืองเชียงใหม่ โดยปีนี้ร่วมกับทุกภาคส่วนจัดงานต้อนรับคนเชียงใหม่และนักท่องเที่ยว พร้อมกับฉลองที่ยูเนสโก ได้ยกย่องให้ “สงกรานต์เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ” โดยจังหวัดเชียงใหม่ เป็น 1 ใน 5 จังหวัดที่ยื่นเรื่องขอประกาศขึ้นทะเบียน
ทั้งนี้ เทศบาลนครเชียงใหม่จะเป็นพื้นที่หลักในการจัดงาน และเป็นพื้นที่สื่อสารทางวัฒธรรม และเทศกาลแห่งความสุข “เน้นการสืบวัฒธรรม ความสนุกสนาน และบันเทิง” สู่สายตาชาวโลก โดยจังหวัดจะเริ่มจัดงานตั้งแต่วันที่ 4-20 เม.ย.2567 โดยวันที่ 4 เม.ย.จะมีพิธีตักน้ำทำน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์
ด้านนายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เปิดเผยรูปแบบการจัดงาน ว่า เทศบาลนครเชียงใหม่ จะเริ่มจัดงานวันที่ 7 เม.ย. โดยทำพิธีหุงน้ำทิพย์ 9 วัด เพื่อเตรียมสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ ในวันที่ 13 เม.ย.2567 ซึ่งในช่วงเช้าหลายวัดจะอัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญ ไปแยกสันป่าข่อย และช่วงค่ำจะร่วมขบวนแห่พระพุทธสิหิงค์ พร้อมปิดถนนอุโมค์เล่นน้ำกว่า 300 เมตร บริเวณวัดแสนฝาง-ประตูท่าแพ ซึ่งการจัดงานของเทศบาล 10 วัน คาดจะมีนักท่องเที่ยวหลายล้านคนร่วมงาน โดยจะมีจุดตรวจในแต่ละจุดเล่นน้ำ เพื่อรักษาความปลอดภัย
ขณะที่นายธวัชชัย อุบลพิทักษ์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ระบุถึงกิจกรรมของกระทรวงฯ ว่า จัดขึ้นในวันที่ 14-16 เม.ย.นี้ โดย “แอนโทเนีย โพซิ้ว” รองอันดับ 1 Miss Universe 2023 จะมาร่วมกิจกรรมในวันที่ 14 เม.ย. ที่ “พุทธสถาน” ซึ่งตกแต่งเป็นข่วงตุงล้านนา ทำพิธีสืบชะตา เพื่อเสริมบารมีรับพรปีใหม่เมือง สืบสานประเพณีดั้งเดิมของชาวล้านนา 728 ปีเมืองเชียงใหม่ เน้นการจัดกิจกรรมย้อนยุค และแต่งกายย้อนยุค “ม่วนใจจังหวัดเชียงใหม่“
นางพัศลินทร์ เศวตรัตน์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ คาดว่าปีนี้ยอดนักท่องเที่ยวจะกลับเป็นปกติเหมือนช่วงก่อนปี 2562 โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักยังเป็นคนไทย ซึ่งยอดจองห้องพัก และเที่ยวบินยังเพิ่มสูงขึ้น คาดว่าช่วงเทศกาลสถานการณ์ฝุ่นจะดีขึ้น และมีนักท่องเที่ยวเป็นไปตามเป้า
ส่วนการดูแลความปลอดภัย ตำรวจภูธรภาค 5 เตรียมกำลังพล 1,500 นาย ดูแลประชาชนในเขตเมืองเชียงใหม่ และมีกำลังพลจาก 38 สถานีตำรวจภูธร กว่า 3,000 นาย ดูแลทั่วจังหวัด โดยจุดที่ต้องเฝ้าระวังดูแลเป็นพิเศษ เช่น แยกรินคำ แยกศาลเด็ก รอบคูเมือง ซึ่งปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และเกิดปัญหาจราจรติดขัด พร้อมกับร่วมกับเครือข่ายงดเหล้า และ สสส.เฝ้าระวังการดื่มและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ในพื้นที่ห้ามดื่ม