วันนี้ (3 เม.ย.2567) รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้เชี่ยวชาญ IPCC ประธานกรรม การบริหาร Futuretales LAB, MQDC โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า เฉลยจังหวัดในอนาคตที่จะร้อนที่สุดในประเทศไทย
- หย่อมความร้อนคลุมไทย 7 วันร้อนจัดแตะ 43 องศาฯ
- เช็กขั้นตอนลงทะเบียนรับ "พันธุ์ข้าวพระราชทาน" ถึง 25 เม.ย.
นักวิชาการ ระบุว่า ระหว่างวันที่ 2-9 เม.ย.นี้ อุณหภูมิสูงสุดมากกว่า 40 องศาเซลเซียส ในหลายพื้นที่ และคาดว่าวันที่ 8 เม.ย.นี้ จะเป็นวันที่ร้อนที่สุดก่อนสงกรานต์ปีนี้ อุณหภูมิช่วงสงกรานต์จะลดลงมาเล็กน้อย และอาจจะเพิ่มขึ้นหลังสงกรานต์ต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป
จะเห็นว่าพื้นที่จังหวัดที่มีอุณหภูมิสูงสุดในปัจจุบัน คือจ.สุโขทัย และจะเป็นจังหวัดที่มีอุณหภูมิสูงสุดในอนาคตด้วย ร้อนสุดขีดทั้งจังหวัด
จากข้อมูลกรมอุตุนิยมวิทยา ในอดีต จ.สุโขทัย เคยมีอุณหภูมิสูงที่สุด 44.5 องศาเซลเซียส เป็นลำดับที่ 3 เมื่อวันที่ 12 เม.ย.2559 และเป็นลำดับที่ 6 44 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 7 พ.ค.2559
จังหวัดที่จะมีอุณหภูมิสูงสุดรองลงมาในภาคกลาง
- พิจิตร 48.74 องศาเซลเซียส
- ชัยนาท 48.48 องศาเซลเซียส
- นครสวรรค์ 48.08 องศาเซลเซียส
คาดการณ์อีก 60 ปีข้างหน้าจังหวัดไหนร้อนสุด
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- มหาสารคาม 47.85 องศาเซลเซียส
- ขอนแก่น 47.58 องศาเซลเซียส
- ร้อยเอ็ด 47.56 องศาเซลเซียส
- นครราชสีมา 46.19 องศาเซลเซียส
ภาคเหนือ
- ลำปาง 47.19 องศาเซลเซียส
- ลำพูน 47.13 องศาเซลเซียส
ส่วนพื้นที่กรุงเทพมหานคร จะมีอุณหภูมิสูงสุดประมาณ 44.90 องศาเซลเซียสผลกระทบที่จะตามมาคือภัยคุกคามที่ไม่สามารถย้อนเวลากลับได้ คลื่นความร้อน-ภัยแล้ง-ฝนตกหนัก-น้ำท่วม-น้ำทะเลหนุนสูง ทุกภาคส่วนธุรกิจ สังคมเมือง และชนบทจะได้รับผลกระทบมากน้อย ในช่วงเวลาแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการเตรียมความพร้อมโดยไม่ประมาท
อ่านข่าว ศาลออกหมายจับ "บิ๊กโจ๊ก" คดีฟอกเงินเว็บพนัน
เตรียมร้อนสุดขีด 4-8 เม.ย.นี้
นายสมควร ต้นจาน ผอ.ส่วนพยากรณ์อากาศกลาง กรมอุตุนิยมวิทยา ให้สัม ภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า กรณีที่นักวิชาการคาดการณ์ช่วงวันที่ร้อนสุดของไทยว่า ช่วงนี้ประเทศไทยตอนบนฝนตกน้อย ค่อนข้างแห้งแล้ง และมีความกดอากาศต่ำ หรือหย่อมความร้อนสะสมมาต่อเนื่อง 3-4 วันแล้ว
ประกอบกับมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกปกคลุมทำให้อุณหภูมิความร้อนเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ก่อนหน้าที่เคยบอกว่าปีนี้อุณหภูมิหน้าร้อนจะสูงกว่าค่าปกติ 1-1.5 องศาเซลเซียส และตอนนี้ก็เกิดขึ้นแล้ว
ช่วง 3-4 วันนี้ ภาคเหนือ ภาคกลาง มีความกดอากาศต่ำปกคลุมทำให้อุณหภูมิบางจังหวัดแตะ 42-42.3 องศาเซลเซียส เช่น กาญจนบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ ลำพูน ลำปาง ซึ่งสภาพภูมิประเทศที่เป็นภูเขาแอ่งกะทะเวลากักความร้อน ก็ยิ่งร้อนระอุ
นายสมควร กล่าวอีกว่า จากการประเมินในระยะวันที่ 4-8 เม.ย.นี้ ภาคเหนือภาคกลาง จะยังมีโอกาสที่อุณหภูมิความร้อนจะพีคสุดขั้วร้อนระอุ เข้าไปอีก โดยเฉพาะ 4-5 จังหวัดที่ติดอันดับท็อป หากดูจากแผนที่กราฟฟิกของกรมอุตุนิยมวิทยา ต้องบอกได้สั้นๆ ว่า แดงร้อนระอุจริง จากนั้นช่วงวันที่ 9-11 เม.ย.นี้ อาจจะมีฝนตกลงมาช่วยบ้าง
ทั้งนี้ยังยืนว่าอุณหภูมิร้อนอบอ้าวช่วงนี้ยังไม่ใช่คลื่นความร้อนเหมือนที่เคยในปี 2559 ที่ไทยได้รับคลื่นความร้อนจากเนปาล อินเดียแผ่เข้ามา แต่ตอนนี้เป็นแค่หย่อมความร้อนเท่านั้นที่เป็นปัจจัยให้อุณหภูมิของไทยร้อนระอุ
สำหรับสถิติอุณหภูมิสูงสุดบริเวณประเทศไทย เมื่อวานนี้ (2 เม.ย.)
- ภาคกลาง วัดได้ 42.3 องศาเซลเซียส ที่อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี
- ภาคเหนือ วัดได้ 42.0 องศาเซลเซียส ที่ อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วัดได้ 40.9 องศาเซลเซียส ที่อ.สวางวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี และ อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์
- กทม.และปริมณฑล อุณภูมิสูงสุด วัดได้ 40.7 องศาเซลเซียส อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
“แดด” ช่วงเวลาไหน อันตรายที่สุด
ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด ช่วง 10.00-16.00 น.เพราะมีรังสี UVB อยู่เข้มข้น ทำให้ผิวถูกเผาไหม้ได้มากกว่าช่วงเวลาอื่น ถ้าจำเป็นให้สวมเสื้อแขนยาว กางร่ม ใส่หมวกปีกกว้าง ใส่แว่นตากันแดด จะช่วยป้องกันแสงแดดไม่ให้ทำลายผิวและยังป้องกันการเกิดต้อกระจกได้อย่างดี ที่สำคัญควรทาสารป้องกันแดด (Sunscreen) หรือครีมกันแดด เป็นประจำทุกวัน
อ่านข่าว
"สุริยะ" สั่งพิจารณาลดค่าทางด่วน-เล็งขยายสัมปทานชดเชยเอกชน