ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

อนามัยโพล เผย ปวดศีรษะ ท้องผูก เป็นตะคริว อาการยอดฮิต ฤดูร้อน

สังคม
20 เม.ย. 67
13:46
722
Logo Thai PBS
อนามัยโพล เผย ปวดศีรษะ ท้องผูก เป็นตะคริว อาการยอดฮิต ฤดูร้อน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"ปวดศีรษะ ท้องผูก เป็นตะคริว" กรมอนามัย เผย ประชาชนได้ผลกระทบจากความร้อนในช่วงฤดูร้อนมากที่สุด แนะดูแลสุขภาพตนเอง ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพจากความร้อน

วันนี้ (20 เม.ย.2567) แพทย์หญิงอัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึง สถานการณ์ความร้อนของไทยที่มีอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ค่าดัชนีความร้อน (Heat index) ช่วงวันที่ 18 - 27 เม.ย. 2567

มีแนวโน้มอยู่ในระดับอันตรายมาก (สีแดง) 15 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี สมุทรปราการ จันทบุรี ตราด สุรินทร์ นครศรีธรรมราช ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา ยะลา นราธิวาส และกรุงเทพ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้

กรมอนามัย เผย ผลอนามัยโพล เรื่อง ฤดูร้อนนี้ สุขภาพดีหรือยัง? พบว่า ช่วงฤดูร้อนปีนี้ประชาชนมีความกังวลว่าความร้อนจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในระดับปานกลาง ร้อยละ 52.8 และมีความกังวลมาก ร้อยละ 19.8

โดยอาการจากความร้อนที่พบ 3 อันดับแรก ได้แก่ อาการปวดศีรษะ ร้อยละ 21.9 รองลงมา มีอาการท้องผูก ร้อยละ 13.6 และเป็นตะคริวที่ขา แขน หรือท้อง ร้อยละ 12.7 ตามลำดับ

แพทย์หญิงอัจฉรา กล่าวต่อว่า พฤติกรรมป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจากความร้อน พบว่า ทานอาหารปรุงสุกใหม่ถึง ร้อยละ 93.9 รองลงมาคือ ล้างมือก่อนทาน/ทำอาหาร หรือหลังจากเข้าห้องน้ำห้องส้วม ร้อยละ 93.8 ดื่มน้ำสะอาดบ่อย ๆ ร้อยละ 87.8

สำหรับพฤติกรรมที่ปฏิบัติเป็นประจำได้น้อยที่สุด ได้แก่ เช็คพยากรณ์อากาศก่อนออกจากบ้าน ร้อยละ 56.7 อาบน้ำบ่อยขึ้นหรือหลังจากอยู่กลางแจ้ง ร้อยละ 59.3 และอยู่ในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ ร้อยละ 63.7

ประชาชนควรดูแลสุขภาพตนเองเพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพจากความร้อน ได้แก่ ดื่มน้ำบ่อย ๆ สวมเสื้อผ้าสีอ่อน ระบายอากาศได้ดี หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงที่มีสภาพอากาศร้อนจัด รวมถึงรับประทานอาหารปรุงสุกใหม่

ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยาให้ข้อมูลว่า หากค่าดัชนีความร้อนอยู่ในระดับอันตรายหรือสีส้ม ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ผู้ปกครองควรดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด ไม่ควรปล่อยให้เด็กอยู่ในรถที่จอดตากแดดตามลำพังเด็ดขาด

ควรสังเกตอาการตนเองและคนในครอบครัว หากเสี่ยงโรคลมร้อนหรือฮีทสโตรก (Heat Stroke) เช่น อุณหภูมิแกนกลางร่างกายสูงขึ้นมากกว่า 40 องศาเซลเซียส ผิวหนังแดงร้อน ชีพจรเต้นเร็วและแรง ปวดศีรษะ สับสน มึนงง คลื่นไส้หรืออาเจียน หมดสติ และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

อย่างไรก็ตา หากพบผู้ป่วยโรคฮีทสโตรกให้รีบปฐมพยาบาล ทำให้อุณหภูมิร่างกายลดลงโดยเร็ว ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบตามร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณหลังคอ รักแร้ ขาหนีบ และนำรีบส่งโรงพยาบาล หรือโทร 1669

อ่านข่าวอื่นๆ:

ออมสิน แก้หนี้ครัวเรือน ปล่อยกู้ “สินเชื่อรีไฟแนนซ์” ลดดอกเบี้ย

อากาศร้อน “ผักแพง” พาณิชย์ เร่งเชื่อมโยงตลาดผัก

อุ้มไม่ไหว “ดีเซล” จ่อขึ้น 1 บาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง