วันนี้ (10 พ.ค.2567) หลังมีการวิพากษ์วิจารณ์กันบนโลกโซเชียลฯ กรณีผู้โดยสารสายการบินไทยพบปัญหาเบาะที่นั่งโดยสารชำรุด ไม่สามารถปรับเอนนอนได้ ล่าสุด การบินไทยชี้แจงแล้ว
นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เครื่องบินที่ลำที่มีปัญหาอุปกรณ์ชำรุด มีจำนวน 8 ลำ ได้แก่ แอร์บัส A350 จำนวน 4 ลำ และโบอิ้ง 777-200ER จำนวน 4 ลำ ยืนยันว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น และอยู่ระหว่างประสานผู้ผลิตเพื่อเร่งจัดส่งอะไหล่และซ่อมบำรุง แต่ต้องยอมรับว่า ขณะนี้หลายสายการบินใช้เครื่องบินรุ่นเดียวกัน และต้องการอะไหล่เพื่อซ่อมบำรุงในลักษณะเดียวกัน จึงทำให้บริษัทฯ ต้องรอคิวจัดหาอะไหล่
เบื้องต้น ได้ปรับเปลี่ยนเครื่องบินที่มีปัญหาไปให้บริการเฉพาะเที่ยวบินที่มียอดจองการเดินทางไม่สูงมากนัก และจะบล็อคที่นั่งชำรุด ไม่ทำการขายเพื่อให้บริการผู้โดยสาร คาดว่าจะแก้ไขปัญหาแล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย.นี้
ถามว่าทำไมไม่จำกัดที่นั่งก่อนหน้านี้ นั้นเพราะไม่รู้ว่าเครื่องบินลำไหนที่มีปัญหาบ้าง ต้องขายให้เต็มไปก่อน แต่ตอนนี้รู้ว่าลำไหนที่มีปัญหาก็จะใช้วิธีบล็อกที่นั่ง เพื่อลดความโอกาสที่ผู้โดยสารจะไปเจอ และบางครั้งไปเจอเมื่อทำการบินไปแล้ว ฝ่ายช่างพยายามจะแก้ไข หากไม่สามารถแก้ไขได้ ย้ายที่นั่งไม่ได้บริษัทยินดีชดเชยให้
ส่วนความคืบหน้าการขายเครื่องบินที่ปลดระวาง ล่าสุด ได้เจรจาซื้อขายเครื่องบินปลดระวางทั้งหมดจำนวน 18 ลำแล้ว โดยลงนามทำสัญญาแล้วเสร็จ เครื่องบินโบอิ้ง 777-200 จำนวน 6 ลำ และอยู่ระหว่างเจรจาทำสัญญา ประกอบด้วย โบอิ้ง 777-300 จำนวน 6 ลำ และแอร์บัส A380 จำนวน 6 ลำ
ขณะที่ล่าสุด มีเครื่องบินที่ใช้ทำการบินทั้งสิ้น 73 ลำ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2566 จำนวน 3 ลำ โดยเป็นการรับมอบเครื่องบินเช่ารุ่นแอร์บัส A350-900 ส่งผลให้ในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2567 บริษัทฯ สามารถเพิ่มความถี่ในจุดบินที่มีศักยภาพได้อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด ณ วันที่ 31 มี.ค. 2567 ภาพรวมไตรมาสที่ 1 ปี 2556 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 45,955 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 4,448 ล้านบาท สาเหตุหลักเกิดจากรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 3,539 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี ในช่วงไตรมาสดังกล่าวบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีค่าใช้จ่ายรวม 34,880 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 6,407 ล้านบาท ซึ่งค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 28,473 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นตามปริมาณการผลิตและ/หรือปริมาณการขนส่ง จำนวนเที่ยวบิน จุดบิน และผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น การอ่อนค่าของเงินบาท รวมทั้งอัตราค่าบริการภาคพื้นและราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายปรับตัวสูงขึ้นในภาพรวม
โดยค่าใช้จ่ายดังกล่าว ได้แก่ ค่าใช้จ่ายการบริการผู้โดยสาร ค่าบริการการบินในต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงเครื่องบินและอุปกรณ์ ส่งผลให้บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงินไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว 11,075 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 1,959 ล้านบาท
ด้าน นายกรกฎ ชาตะสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ยังมีปัจจัยบวกมาจากเส้นทางจีนที่ผู้โดยสารมีความต้องการมาก ซึ่งได้รับอานิสงค์มาจากนโยบายวีซาฟรี และอินเดีย ซึ่งเป็นเส้นทางที่การบินไทยมีเส้นทางมากที่สุด โดยการบินไทยเตรียมเพิ่มความถี่ในเส้นทางเซี่ยงไฮ้ และเส้นทางปักกิ่ง ในเดือน ก.ค.นี้ ซึ่งปัจจุบันการบินไทย บินในจีน 5 เมือง
นอกจากนี้ จะเพิ่มความถี่ในออสเตรเลีย เส้นทางซิดนีย์, เมลเบิร์น และเพิร์ท ส่วนเส้นทางยุโรป จะกลับมาทำการบินในเส้นทางออสโลและมิลาน ส่วนปลายปีนี้จะเพิ่มเส้นทางบินไปยังบรัสเซลส์ และอัมริตสาร์ ของอินเดีย
อ่านข่าว : ระทึก! เครื่องบิน Boeing เซเนกัลไถลนอกรันเวย์เจ็บ 10 คน