วันนี้ (29 พ.ค.2567) นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด นายนาเคนทร์ ทองไพวัลย์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และนายวิพุธ บุญประสาท อัยการพิเศษ ฝ่ายคดีอาญา 8 ร่วมกันแถลงความคืบหน้าคดีนายทักษิณ ชินวัตร ถูกกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่เกาหลีใต้ ซึ่งเดิมอัยการสูงสุด เคยสั่งฟ้องเมื่อปี 2558 แต่นายทักษิณร้องขอความเป็นธรรมและอ้างพยานบุคคล
อ่านข่าว : สะพัด "ทักษิณ" ยื่น อสส.เลื่อนฟังคำสั่งฟ้องคดี ม.112 เหตุป่วยโควิด
นานประยุทธ์ เปิดเผยว่าคดีนี้ เมื่อวันที่ 16 ก.พ.2559 สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนคดีการกระทำความผิดนอกราชอาณาจักรจากพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ต.อ.โอฬาร สุขเกษม ผู้กล่าวหา นายทักษิณ ชินวัตร ข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์พระราชินี ทายาท และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 พ.ค.2558 ที่กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) และประเทศไทย เกี่ยวพันกัน
เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีความผิดซึ่งมีโทษตามกฎหมายไทย ได้กระทำลงนอกราชอาณาจักรไทย จึงเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของอัยการสูงสุดเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินคดี โดยในชั้นแรก นายทักษิณ ชินวัตร หลบหนี ยังไม่ได้ตัวมาทำการสอบสวน ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด ในขณะนั้น พิจารณาแล้วให้มีคำสั่ง เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2559 เห็นควรสั่งฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร ตามข้อกล่าวหา
ต่อมานายทักษิณ ชินวัตร ได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร และถูกควบคุมตัวไว้ในคดีอื่นและในวันที่ 17 ม.ค.2567 อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน และคณะ ร่วมกับพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดี ได้เข้าแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมกับพฤติการณ์และข้อเท็จจริงทางคดีนี้ให้กับนายทักษิณ ชินวัตร ทราบแล้ว ปรากฏว่าผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ พร้อมกับยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด และต่อมา นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสด ได้มีคำสั่งสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นที่ผู้ต้องหาร้องขอความเป็นธรรม และพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมครบถ้วนแล้ว พร้อมได้ส่งบันทึกคำให้การชั้นสอบสวนเพิ่มเติมให้กับอัยการพิจารณา
อ่านข่าว : ย้อนไทม์ไลน์ 9 ปีสั่งฟ้องคดี "ทักษิณ" ม.112
ประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด
บัดนี้ อัยการสูงสุดได้ตรวจพิจารณาสำนวนและมีคำสั่งฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร ฐานร่วมกัน หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 112 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ต.ค.2519 ข้อ 1 พระราชบัญญัติที่ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 3, 14(3) พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 มาตรา 8
วันนี้ พนักงานอัยการไม่สามารถยื่นฟ้อง นายทักษิณ ต่อศาลได้ เนื่องจากนายทักษิณ ไม่ได้มาพบพนักงานอัยการตามกำหนดนัด โดยใด้มอบอำนาจให้ทนายความมายื่นขอเลื่อนการฟังคำสั่งของพนักงานอัยการ ออกไปเป็นวันที่ 25 มิ.ย.2567 เวลา 09.00 น. พร้อมแนบใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าป่วยเนื่องจากติดโควิด-19 โดยแพทย์ให้หยุดพักงานและสังเกตอาการเป็นเวลา 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. - 3 มิ.ค.2567
ซึ่งนายวิพุธ บุญประสาท อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 ในฐานะหัวหน้าพนักงานอัยการที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าสาเหตุเลื่อนคดีมีการอ้างการป่วยเพราะติดโควิด โดยหมอให้พักเพื่อสังเกตอาการถึงวันที่ 3 มิ.ย.2567 จึงอนุญาตให้เลื่อนไป วันที่ 18 มิ.ย.2567 เพื่อนัดให้นายทักษิณ มาพบพนักงานอัยการ เพื่อยื่นฟ้องศาลในวันดังกล่าวต่อไป
อ่านข่าว : "วิษณุ เครืองาม" กุนซือกฎหมายคู่ใจหลายรัฐบาล
ครม.อนุมัติร่าง พ.ร.ฎ.เพิ่มเงินประจำตำแหน่ง พ.ต.ท.ขึ้นไป ในวิชาชีพ 5 สายงาน