ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"บิ๊กต่าย" ยืนยันคำสั่ง "บิ๊กโจ๊ก" ออกราชการทำตามกฎหมาย

อาชญากรรม
30 พ.ค. 67
17:48
1,166
Logo Thai PBS
"บิ๊กต่าย" ยืนยันคำสั่ง "บิ๊กโจ๊ก" ออกราชการทำตามกฎหมาย
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"บิ๊กต่าย" ยืนยัน คำสั่งให้ "บิ๊กโจ๊ก" ออกจากราชการ ทำตามกฎหมายและข้อเท็จจริง เผยสถานะ "บิ๊กโจ๊ก" ยังเป็น "รอง ผบ.ตร." แต่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เพราะมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้

วันนี้ (30 พ.ค.2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) กล่าวภา่ยหลังการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 4/2567 ว่า กรณี สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มีบันทึกความเห็นกรณีการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ออกจากราชการไว้ก่อน นายกฯ ต้องนำความกราบบังคมทูล ให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้พ้นจากตำแหน่ง นั้นมอบหมายให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร.เป็น ผู้ชี้แจง

อ่านข่าว "เปิดบันทึกกฤษฎีกา "คดีบิ๊กโจ๊ก" ไม่ผูกพันคำอุทธรณ์ "ก.พ.ค.ตร."

ต่อมา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า กรณีความเห็นของกฤษฎีกานั้น ในวาระดังกล่าวตนเองไม่ได้นั่งอยู่ในที่ประชุม เนื่องจากเป็นผู้ออกคำสั่ง และอาจทำให้การพิจารณาการไม่เป็นกลางได้ จึงขออนุญาตที่ประชุม ไม่ร่วมพิจารณาในวาระนี้

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยังระบุว่า ขณะที่การออกคำสั่งให้ออกจากราชการ นั้นพิจารณาตามข้อกฎหมาย และพิจารณาตามที่ฝ่ายอำนวยการเสนอขึ้นมา

ไม่มีอะไรเพลี่ยงพล้ำ ทำตาม พ.ร.บ.ตำรวจ และข้อกฎหมาย และกรณีสำนักนายกฯ หารือไป เป็นการหารือเพื่อความรอบคอบ ซึ่งเป็นเรื่องของเลขาธิการนายกฯ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีหนังสือส่งจากกฤษฎีกามา ซึ่งหากได้รับหนังสือก็จะนำมาพิจารณาอีกครั้ง ว่ามีประเด็นใดที่จะสอบถามสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็จะมาพิจารณาอีกครั้ง

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวต่อว่า ในทางกฎหมายเป็นไปตามกระบวนการที่ต้องดำเนินการตามตรา 140 ส่วนจะสมบูรณ์หรือไม่ ตนเองไม่สามารถไปให้คำนิยามได้ ขณะที่ ม.120 วรรค 4 กับ ม.131 นั้นเป็นดุลพินิจของ พล.ต.สุรเชษฐ์ ซึ่งเป็นสิทธิของผู้ร้องที่จะพิจารณาเห็นว่า ม.120 วรรค 4 ควรจะฟังคณะกรรมการสอบสวน ให้ข้อเสนอแนะเสียก่อน

แต่ในฐานะผู้บังคับบัญชา ในฐานะรักษาราชการแทน ผบ.ตร.ได้พิจารณาจากข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และความรุนแรงแห่งคดี และพฤติกรรมต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องใช้ ม.119 ก่อน คือ ตั้งกรรมการร้ายแรงและพิจารณาเกี่ยวกับการออกจากราชการไว้ก่อนตาม ม.131 ซึ่งแท้จริงแล้วยังมีกฎหมายอีกหลายมาตราที่ผู้บังคับบัญชาสามารถใช้ได้

ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้อยู่ระหว่างต้องรอผลการพิจารณาจากคณะกรรมการชุดสืบสวน และจากคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ในการพิจารณาตาม ม.131 เรื่องบทลงโทษ จากนั้นจะมีการพิจารณาตาม ม.140 คือ การทูลเกล้าฯ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังคง รองผบ.ตร.แต่มีคำสั่งให้ออกจากราชการจึงต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย

ขณะที่ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนสถานะของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ คืออะไร พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.แต่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เพราะมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

ขณะที่กรณีการควบคุมตัวนายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี หรือ "แป้ง นาโหนด" ได้ที่ประเทศอินโดนีเซีย นั้น พรุ่งนี้ (31 พ.ค.2567) นายทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรมจะเดินทางไปยังอินโดนีเซีย เนื่องจากในเรื่องนี้จะมีรายละเอียดในการดำเนินการอีกมากและคาดว่าจะนำตัวกลับมาที่ไทย ทั้งนี้การส่งตัวจะเป็นไปตามสนิธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างไทยและอินโดนีเซีย

ขณะที่การคดีที่ประเทศอินโดนีเซียนั้นจะดำเนินการอย่างไรนั้น นายกฯ ระบุว่าไม่ทราบ ผู้สื่อข่าวยังถามว่า การหลบหนีมีกระแสข่าวว่ามีตำรวจช่วยเหลือนั้น นายกฯก็ระบุว่าไม่ทราบ และระบุว่า ต้องให้ความเป็นธรรม และต้องสืบสวนเชิงลึกต่อไป  

ขณะที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจอินโดนีเซีย สามารถควบคุมตัวนายชวลิต หรือ แป้ง นาโหนด ได้แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอการยืนยันการจับกุมอย่างเป็นทางการจากทางอินโดนีเซีย และจากนั้นตำรวจไทยจะประสานเรื่องการส่งตัวนายเชาวลิตกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยืนยันว่า การจับกุมตัวนายเชาวลิตในครั้งนี้เป็นไปตามหมายจับของตำรวจสากล ในข้อหาต่อสู้ขัดขวางและหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจำเป็นต้องนำตัวกลับมาดำเนินคดีในราชอาณาจักรไทย

ส่วนข้อหาการปลอมแปลงพาสปอร์ต หรือการกระทำความผิดอื่นๆที่เกิดขึ้นในประเทศอินโดนีเซียนั้นขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ได้สั่งการให้กองการต่างประเทศ ประสานงานกับทางตำรวจอินโดนีเซีย เนื่องจาก มีสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทย ซึ่งอยู่ระหว่างหารือในรายละเอียด

ส่วนกรณีที่มีข้อมูลว่ามีตำรวจให้การช่วยเหลือนายเชาวลิต ในการหลบหนีและ เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดหรือไม่ อยู่ระหว่างตรวจสอบและขยายผล ซึ่งหากมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องจะดำเนินการไม่ละเว้น

อ่านข่าว : กฤษฎีกาชี้ปลด "บิ๊กโจ๊ก"ออกราชการ-นายกฯ ต้องกราบบังคมทูล 

กาง 4 แนวทางคำวินิจฉัย ก.พ.ค.ตร.ปม "บิ๊กโจ๊ก" อุทธรณ์ปลดออกราชการ 

ด่วน! " เศรษฐา" ยืนยันจับ "แป้ง นาโหนด" จนมุมที่อินโดนีเซีย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง