เมื่อวันที่ 14 ก.ค.2567 โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เปิดแถลงข่าวหลังเกิดเหตุลอบยิงโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่างการปราศรัยในรัฐเพนน์ซิลเวเนีย โดยไบเดนระบุว่าได้พูดคุยกับทรัมป์แล้ว และยินดีอย่างยิ่งที่เขาสบายดีและกำลังฟื้นตัว ซึ่งการพูดคุยกันครั้งนี้แม้จะสั้น ๆ แต่เป็นไปด้วยดี
นอกจากนี้ยังย้ำเรื่องความคืบหน้าการสอบสวนและการรักษาความปลอดภัย โดยสั่งยกระดับความปลอดภัยทรัมป์เต็มกำลังและให้หน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทบทวนแผนการด้านความปลอดภัยรอบตัวทรัมป์ รวมถึงที่การประชุมใหญ่รีพับลิกันด้วย
อ่านข่าว : "ทรัมป์" ถูกนำตัวลงจากเวที หลังเสียงปืนดังขั้นหลายนัดในเวทีหาเสียง
ขณะที่ทรัมป์ออกมาเคลื่อนไหวบน "ทรูธ โซเชียล" สื่อสังคมออนไลน์ของตัวเองอีกรอบ กล่าวขอบคุณทุกคนที่ร่วมอวยพรให้ตัวเขา พร้อมระบุว่า สิ่งสำคัญในช่วงเวลานี้คือทุกคนจะต้องสามัคคีกันและแสดงตัวตนความเป็นชาวอเมริกันที่ยังคงแข็งแกร่งและมุ่งมั่น รวมถึงไม่ปล่อยให้ความชั่วร้ายได้ชัยชนะ
นอกจากนี้ยังโพสต์ว่า เดิมทีจะเลื่อนเดินทางไปวิสคอนซินและร่วมประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน แต่เปลี่ยนใจไม่ยอมให้มือปืนมาเปลี่ยนแผนการของตัวเอง จึงเดินทางไปที่มิลวอกกีเพื่อร่วมการประชุมใหญ่ของพรรคตามเดิมในวันที่ 15 ก.ค.ตามเวลาท้องถิ่น
ในงานนี้ทรัมป์จะกลายเป็นผู้แทนพรรคชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการและคาดว่าอาจมีการประกาศชื่อคู่หูลงชิงเก้าอี้รองประธานาธิบดีด้วย
ชาวอเมริกันแสดงพลังหนุน "ทรัมป์"
กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ รวมตัวอยู่ริมถนนในเมืองเบดมินสเตอร์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ เพื่อแสดงพลังสนับสนุนทรัมป์ โดยโบกธงอเมริกันและธงของทรัมป์ที่เขียนว่า "TRUMP 2024 : TAKE AMERICA BACK" ซึ่งมีเสียงแตรดังขึ้นเป็นระยะ ๆ จากผู้สนับสนุนทรัมป์ที่ขับรถผ่านไปมา
ส่วนบริเวณหน้าอาคารทรัมป์ ทาวเวอร์ ในนครนิวยอร์ก มีกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ออกมาแสดงพลังสนับสนุนและแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับทรัมป์เช่นกัน ทั้งโบกธง เปิดเพลง บีบแตรและส่งเสียงเชียร์ให้อดีตผู้นำสหรัฐฯ โดยหลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญดังกล่าว ตำรวจสหรัฐฯ ระดมกำลังรักษาความปลอดภัยและตรึงกำลังบริเวณด้านหน้าทางเข้าอาคารแห่งนี้ เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นอีก
ขณะที่เมลาเนีย ทรัมป์ ภรรยาของทรัมป์ เล่าความรู้สึกผ่านแพลตฟอร์ม X ระบุว่า ตอนที่เห็นทรัมป์ถูกยิง เธอตระหนักว่าชีวิตของเธอและบาร์รอน ลูกชาย จวนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องสามีของเธอ
นอกจากนี้ เมลาเนียได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ พร้อมเรียกร้องให้ชาวอเมริกันเป็นหนึ่งเดียวกัน ให้ก้าวข้ามความเกลียดชัง คำพูดวิจารณ์อย่างรุนแรงและความนึกคิดที่จะจุดชนวนให้เกิดความรุนแรง
อ่านข่าว : รู้ตัวแล้ว! มือปืนวัย 20 ปีลอบยิง "ทรัมป์" ตร.สอบสวนพ่อหาสาเหตุ
หลังเกิดเหตุการณ์ช็อกโลกดังกล่าว บรรดาผู้นำทั่วโลกทั้ง ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น, นเรนทรา โมดี นายกฯ อินเดีย, แอนโทนี อัลบานีซี นายกฯ ออสเตรเลีย, เบนจามิน เนทันยาฮู นายกฯ อิสราเอล, เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกฯ อังกฤษ, โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน, สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน
รวมถึงผู้นำเยอรมนี แคนาดา บราซิล ไต้หวัน ฮังการี ฟิลิปปินส์ นิวซีแลนด์ ไอร์แลนด์ ไทย, เลขาธิการใหญ่องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ และบรรดาเจ้าของธุรกิจระดับโลก ต่างประณามและแสดงความกังวลต่อเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งส่งกำลังใจให้ทรัมป์ ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์และชาวอเมริกันทุกคน รวมถึงร่วมอวยพรให้อดีตประธานาธิบดีหายจากอาการบาดเจ็บโดยเร็ว
ล่าสุด ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย เชื่อว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ได้อยู่เบื้องหลังเหตุพยายามลอบสังหารทรัมป์ แต่อาจเรียกได้ว่าเป็นฝ่ายสร้างสถานการณ์ที่ชักนำให้เกิดเหตุรุนแรงนี้ขึ้น
ค้นบ้าน "ผู้ก่อเหตุ" พบอุปกรณ์ประกอบวัตถุระเบิด
ตำรวจรัฐเพนซิลเวเนียและเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุชื่อ โทมัส แมทธิว ครูกส์ อายุ 20 ปี อาศัยอยู่ในเบเธล พาร์ค รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 56 กิโลเมตร โดยผู้ก่อเหตุถูกเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาประธานาธิบดีสังหารทันทีในที่เกิดเหตุ
ครูกส์ ใช้ปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติแบบ AR-15 และการตรวจค้นบ้านพักล่าสุด มีรายงานว่าพบอุปกรณ์สำหรับประกอบวัตถุระเบิดในรถและที่บ้านพักของผู้ก่อเหตุด้วย
ครูกส์ จบจากโรงเรียนมัธยมปลาย Bethel Park High School ซึ่งเขาได้รับรางวัล Star Award จากโครงการสนับสนุนด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ระดับประเทศ ได้เงินรางวัลถึง 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ขณะที่อดีตเพื่อนร่วมโรงเรียนที่จบก่อนครูกส์ 1 ปี ให้ข้อมูลว่า ครูกส์ถูกกลั่นแกล้งหรือบูลลีทุกวันระหว่างเรียน ม.ปลาย และเขาเป็นคนโดดเดี่ยวแปลกแยก อยู่คนเดียวตลอด กินข้าวคนเดียว และมักสวมเสื้อผ้าสำหรับล่าสัตว์ไปโรงเรียน แต่ไม่เคยพูดคุยกัน
อ่านข่าว
สหรัฐฯ เร่งสอบเหตุลอบยิง "ทรัมป์" ผู้นำทั่วโลกประณามเหตุรุนแรง
ลอบยิง "ทรัมป์" สะท้อนการเมืองสหรัฐฯ รุนแรง-เกลียดชัง ?
ไม่มีช่องว่างให้ความผิดพลาด รู้จัก "หน่วยข่าวกรองแห่งสหรัฐฯ"
