ความคืบหน้ากรณีระบบไอทีล่มจนส่งผลกระทบต่อสายการบิน สถานีวิทยุ โทรทัศน์ ธนาคาร ทั่วโลก
ล่าสุด วันนี้ (20 ก.ค.2567) นายปริญญา หอมเอนก ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของ Crowd strike ต่อไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า ระบบวินโดว์จำเป็นต้องมีโปรแกรมแอนตี้ไวรัสคอยอัปเดตอยู่เสมอเพื่อป้องกันไวรัส ระหว่างการอัปเดตแอนตี้ไวรัส crowd strike เกิดมีปัญหา จึงทำให้ระบบค้าง (อัปเดทแล้ว failed)
การอัปเดตนี้เป็นกระบวนการแบบออโต้อัปเดต ไม่ได้เกิดจากแฮกเกอร์ หรือการโจมตีใด ๆ วิธีการแก้ไขต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมง ธุรกิจที่เป็นแบบเรียลไทม์จึงต้องหยุดชะงัก ดังนั้นจึงเห็นภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นหน้าจอสีฟ้า
สำหรับธุรกิจอื่นที่ใช้วินโดว์ แต่ไม่ได้ใช้แอนตี้ไวรัสของ Crowd strike จะไม่เกิดปัญหา แต่โปรแกรมแอนตี้ไวรัสทุกตัวสามารถเกิดปัญหาได้หมด
ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าหนักกว่าเหตุการณ์ Y2K แนะนำให้ภาคธุรกิจในประเทศไทยที่มีการใช้วินโดว์มากถึงร้อยละ 90 ตื่นตัวหาแผนรองรับปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะจากความเสียหายครั้งนี้บริษัทประกันไม่จ่ายเงิน
สำหรับโปรมแกรมแอนตี้ไวรัส Crowd Strike ถือเป็นโปรแกรมยอดนิยมระดับ Top 5 ของโลก บริษัทใหญ่ทั่วโลกนิยมใช้ และมีราคาค่อนข้างแพง
อ่านข่าว : ทั่วโลกทยอยกลับสู่ภาวะปกติ หลังระบบไอที ขัดข้องครั้งใหญ่
วุ่นทั่วโลก! Microsoft ระบบล่ม ทำสนามบิน-ธนาคาร-หุ้น ปั่นป่วน
ยังแก้ไม่ได้! Microsoft ไทยแจงระบบล่มเหตุอัปเดตซอฟต์แวร์