วันนี้ (30 ก.ค.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจคุมตัวชายก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่น บนทางคู่ขนานมอเตอร์เวย์ขาออก มุ่งหน้า จ.ชลบุรี ช่วงกิโลเมตรที่ 1 มาคุมขังที่สถานีตำรวจนครบาลประเวศ หลังรับแจ้งว่าชายมีอาการคล้ายคนมึนเมาพูดคนเดียว ถือมีดทำครัวเดินข้ามถนนไปมาสร้างความตื่นตระหนกกับผู้ที่สัญจรผ่านมาในบริเวณดังกล่าว
จากการตรวจสอบพบชายคนนี้ คือนายนิธิธัศน์ อายุ 27 ปี โดยช่วงระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามควบคุมตัว ได้มีพลเมืองดีและเจ้าหน้าที่กู้ภัย ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ 1 คน ถูกแทงที่บริเวณไหล่ซ้าย 1 แผล
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับแจ้งจากแม่ผู้ก่อเหตุว่า จะไปรับลูกชาย เพื่อไปส่งที่โรงพยาบาล เมื่อไปถึงบ้านผู้ก่อเหตุ ช่วงแรกยังพูดคุยกับลูกชายได้ตามปกติ แต่ขณะกำลังจะขึ้นรถ ลูกชายกลับมีอาการคล้ายคนเสียสติ จู่ ๆ ได้คว้ามีดทำครัวมา 2 เล่ม วิ่งเข้าหาเจ้าที่กู้ภัยที่กำลังจะพาไปส่งโรงพยาบาล ทำให้เจ้าหน้าที่แตกตื่นรีบวิ่งออกมา
ก่อนที่จะประสานกับตำรวจ ให้เข้ามาระงับเหตุ แต่ผู้ก่อเหตุมีอาการคลุ้มคลั่งอย่างรุนแรง ถือมีดแกว่งไปแกว่งมา ก่อนจะวิ่งฝ่าตำรวจ แล้วข้ามถนนใหญ่ 8 เลนจราจร
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น ส่วนประเด็นเรื่องสารเสพติดนั้นขณะนี้ อยู่ระหว่างส่งตรวจสารเสพติดในร่างกาย ยืนยันหากพบจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม
ด้านนายป้อม อายุ 18 ปี ลูกจ้างร้านรับซื้อของเก่าใกล้กับจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ถูกผู้ก่อเหตุเอามีดแทง ตอนเกิดเหตุ ตัวเองเห็นผู้ก่อเหตุเดินถือมีด 2 มือซ้ายขวาแล้วเดินไปทั่ว เดินไปเดินมา
จากนั้น แม่ผู้ก่อเหตุแจ้งขอความช่วยเหลือให้ช่วยกันจับ ตัวเองกับรุ่นพี่อีกคนจึงช่วยกันเอาไม้ง่ามเข้าไปจะจับตัวผู้ก่อเหตุ แล้วมีจังหวะที่ไม้ของตัวเองหล่น จึงก้มเก็บ ผู้ก่อเหตุก็แทงเข้าที่ด้านหลังไหล่ซ้าย ลึกประมาณ 1 เซนติเมตร กว้าง 1 นิ้ว ซึ่งตัวเองไม่ได้รู้จักกับผู้ก่อเหตุเป็นการส่วนตัว แต่ที่ผ่านมาเคยเห็นเป็นประจำ ช่วงเย็นผู้ก่อเหตุ จะชอบไปยืนริมถนน แล้วพูดคนเดียว
มีประวัติคดียาเสพติดปี 2559
ขณะที่เจ้าของร้านรับซื้อของเก่า กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ผู้ก่อเหตุเคยมาทำงานกับตัวเอง โดยแม่เป็นคนพามาสมัคร ให้ทำงานขับรถส่งของ ช่วงแรกก็ปกติดี ทำงานใช้ได้ ไม่ดื่มเหล้า และยังไม่มีการเสพยาเสพติด เพราะจะตรวจคนงานตลอด ถ้าเสพยาจะไม่รับเข้าทำงาน แต่พอทำไปได้ประมาณ 2 เดือน ผู้ก่อเหตุก็มีท่าทีเปลี่ยนไป เลยขอให้พักงานไปก่อน และให้ออกไปเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว
กระทั่ง 2 สัปดาห์ก่อน ยังเห็นผู้ก่อเหตุมาเดินไปเดินมา ยืนเตะตะกร้อลม พูดคนเดียว มองสายไฟ จึงพูดคุยกับแม่ผู้ก่อเหตุบอกว่า ต้องพาไปหาหมอ ปล่อยไว้จะอันตราย วันหนึ่งอาจจะคลุ้มคลั่งมาทำร้ายคนในครอบครัว แต่ตอนเข้าไปพูดคุย ผู้ก่อเหตุจำตนไม่ได้ มีอาการโวยวาย ไม่ยอมรับ ไม่ยอมไปหาหมอ จนแม่มาเรียกกู้ภัยมารับวันนี้ แล้วก็เกิดเหตุการณ์ขึ้น
สำหรับผู้ก่อเหตุคนนี้ เคยถูกจับกุม ในข้อหาครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่ายและเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ในพื้นที่สภ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี เมื่อปี 2556 ก่อนจะมาถูกจับครั้งหนึ่งในปี 2559 ในข้อหาและพื้นที่เดียวกัน