กรณีนักแสดงชายขับเจ็ตสกีพุ่งชนเรือหางยาวข้ามฟากขนาดเล็ก บริเวณคุ้งน้ำพระประแดงกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์นี้ส่งผลให้ผู้โดยสารที่มากับเรือหางยาวและคนขับเรือโดยสาร จมน้ำเสียชีวิต 2 คน
ล่าสุดวันนี้ (19 ส.ค.2567) นายชินดนัย แซ่ลิ้ม หรือ คิวพี อายุ 21 ปี นักแสดงซีรีย์และผู้ขับเรือเจ็ตสกี พร้อมกับพ่อและลุงที่เป็นเจ้าของเจ็ตสกี เดินทางไปสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสมุทรปราการ เพื่อพูดคุยและให้ข้อมูลเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายคิวพีถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่นายคิวพีได้แต่ก้มหน้าและไม่ตอบคำถามใด ๆ ก่อนที่ทั้ง 3 คนจะเดินไปยังห้องสอบสวน โดยมีนายฉัตรชัย เวชสาร ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสมุทรปราการ และเจ้าพนักงานร่วมสอบสวน
จากการสังเกตการณ์บริเวณหน้าห้องสอบสวน พบว่า นายคิวพีและพ่อมีอาการเครียด และบางจังหวะที่พ่อได้กุมมือนายคิวพีไว้ ส่วนลุงของนายคิวพี เจ้าพนักงานได้แยกสอบสวนอีกห้องหนึ่ง โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้ารับฟังการสอบสวน
นายฉัตรชัย ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสมุทรปราการ ให้ข้อมูลว่า วันนี้เรียกเจ้าของเรือและนายคิวพีมาสอบสวนถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นตามอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานกรมเจ้าท่า รวมทั้งจะให้นำเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับใบทะเบียนเจ็ตสกีและประกาศนียบัตรผู้ควบคุมเรือหรือใบนายท้าย ซึ่งเปรียบเสมือนใบขับขี่รถยนต์ มาแสดงต่อเจ้าพนักงานด้วย
ทั้งนี้ ผู้ขับขี่เรือจะต้องมีประกาศนียบัตรผู้ควบคุมเรือหรือใบนายท้าย ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถทราบได้แน่ชัดว่านายคิวพีมีใบนายท้ายตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่ หากไม่มีใบดังกล่าวจะมีความผิดตามกฎหมาย ซึ่งเจ้าพนักงานกรมเจ้าท่าจะแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง ด้วยความผิดฐานไม่มีใบท้ายเรือตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับตั้งแต่ 1,000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะที่ พ.ต.อ.ประภาส มั่งคั่ง รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้เดินทางไปที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสมุทรปราการ เพื่อหารือกับสำนักงานเจ้าท่าเกี่ยวกับคดีดังกล่าว พร้อมกล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่ามีปัญหาเรื่องท้องที่ที่รับผิดชอบคดีกลางแม่น้ำเจ้าพระยาที่ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นพื้นที่ของ สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หรือ สน.บางคอแหลม กรุงเทพฯ
พ.ต.อ.ประภาส กล่าวว่า ต้องให้เจ้าท่าเป็นผู้ชี้ชัดตรวจสอบก่อนว่าเครื่องยนต์เรือหางยาวที่ถูกชนตกอยู่ในท้องที่ใด รวมทั้งต้องให้เจ้าท่าสอบสวนเกี่ยวกับเส้นทางการเดินเรืออย่างละเอียด จึงจะสามารถชี้ชัดได้ว่าท้องที่ใดต้องรับผิดชอบและจะสามารถดำเนินคดีทางอาญาได้ ส่วนเรื่องความผิดเกี่ยวกับการขับเจ็ตสกีต้องให้เจ้าท่าเป็นผู้ดำเนินการสอบสวนและแจ้งความดำเนินคดี
นอกจากนี้ยังมีตำรวจ สภ.พระประแดง เดินทางมาที่สำนักงานเจ้าท่าด้วย คาดว่ามาหารือเกี่ยวกับคดีนี้และจะดำเนินการสอบสวนนายคิวพีและเจ้าของเรือร่วมกับเจ้าท่าด้วย
ต่อมารอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พร้อมตำรวจ สภ.พระประแดง ได้เดินทางกลับจากสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสมุทรปราการ โดยให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ข้อสรุปเรื่องท้องที่จะให้ สภ.พระประแดง เป็นผู้รับผิดชอบสอบสวนคดีเจ็ตสกีชนเรือชาวบ้าน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหาใด ๆ กับคนขับเจ็ตสกี เพราะต้องรอข้อเท็จจริงที่เจ้าพนักงานเจ้าท่าสอบปากคำคนขับเจ็ตสกีก่อนนำข้อมูลมาพิจารณาแจ้งข้อหาต่อไป ซึ่งคาดว่าจะแจ้งข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายได้ภายในช่วงบ่ายวันนี้ (19 ส.ค.) เนื่องจากได้นัดหมายสอบปากคำนายคิวพีหลังจากให้ข้อมูลกับเจ้าพนักงานเจ้าท่าแล้วเสร็จ
ส่วนกรณีที่ญาติของผู้เสียชีวิตมีความกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม พ.ต.อ.ประภาส กล่าวว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นแตกต่างจากอุบัติเหตุตามท้องถนน ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินเรือวิเคราะห์พยานหลักฐานต่าง ๆ หากกรมเจ้าท่าสอบสวนข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นก็จะเชิญกรมเจ้าท่าไปให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนในฐานะผู้เชี่ยวชาญ เพื่อนำมาประกอบการแจ้งข้อกล่าวหานายคิวพี พร้อมยืนยันว่าตำรวจจะให้ความเป็นธรรมในคดีนี้อย่างแน่นอน
อ่านข่าว
เจ็ทสกีชนเรือหางยาวกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ดับ 2 เจ็บ 2
นักแสดงซีรีส์วาย "ไม่มีใบขับขี่เรือ" ตร.ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา