วันนี้ (22 ส.ค.2567) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ยื่นหลักฐานเป็นเอกสารเส้นทางการเงินให้ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) เพื่อให้ตรวจสอบพฤติการณ์ของตำรวจระดับรองผู้กำกับการ และร้อยตำรวจตรี สังกัดกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบและเรียกรับสินบน กับพวกซึ่งทำหน้าที่เปิดบัญชีม้า รวมทั้งหมด 4 คน
นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า มีผู้ประกอบการรายใหญ่และรายย่อยหลายรายให้ข้อมูลว่า มีตำรวจสังกัด บก.ปอศ. 2 นาย มีพฤติการณ์เข้าข่ายร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามมาตรา 157 และร่วมกันเรียกรับสินบนผ่านบัญชีม้า
นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า ผู้ประกอบการขายสินค้าออนไลน์ ให้ข้อมูลว่า มีตำรวจสังกัด บก.ปอศ. เป็นผู้สั่งการให้จับกุมผู้ประกอบการที่ทำผิดกฎหมายในเรื่องสินค้าหนีภาษี และความผิดอื่น ๆ หลังจับกุมผู้ประกอบการได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปที่ ปอศ. แล้วทำการข่มขู่ผู้ประกอบการให้เกิดความกลัว โดยอ้างว่าจะต้องยึดของกลางไว้ 90 วัน หากผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีจะเสียประวัติ รวมถึงการเจรจาเพื่อลดจำนวนของกลางลง ทำให้ผู้ต้องหายินยอมจ่ายเงินให้กับชุดจับกุมเพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี ลดจำนวนของกลางและคืนของกลางให้
จากนั้นตำรวจสังกัด บก.ปอศ. จะเจรจากับผู้ประกอบการว่าให้ส่งเงินสินบนรายเดือน ตั้งแต่ 5,000-150,000 บาท โดยให้ตำรวจอีกนายใช้บัญม้าของบุคคลอีก 2 คน เพื่อบังคับให้ผู้ประกอบการโอนเข้าบัญชีรายเดือนดังกล่าว หากไม่จ่ายจะจับกุมดำเนินคดี
นอกจากการจับกุมผู้ประกอบการรายใหญ่แล้ว ตำรวจกลุ่มนี้ยังนำข้อมูลรายชื่อผู้ประกอบการรายย่อยจากกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ไปเรียกรับสินบนต่ออีกทอดหนึ่ง โดยขณะนี้พบว่ามีผู้ประกอบการซึ่งเป็นผู้เสียหายทั้งหมด 50 ราย และมีการโอนเงินให้กับเจ้าหน้าที่รัฐกลุ่มนี้ไปแล้วกว่า 300 ล้านบาท
อ่านข่าว
เปิดกรุ "เศรษฐา" หลังพ้น รมว.คลัง รวย 1,018 ล้าน
พรรคประชาชาติ ส่งชื่อเดียว "พ.ต.อ.ทวี" ร่วม ครม.แพทองธาร
"วันนอร์" เผย กรณีสอบจริยธรรม "ประวิตร" ฝ่ายกฎหมายอยู่ระหว่างพิจารณา