ซ่อมต่อหรือขายทิ้ง ? วิธีดูแล "รถยนต์" หลังถูกน้ำท่วม

ไลฟ์สไตล์
12 ก.ย. 67
15:28
2,777
Logo Thai PBS
ซ่อมต่อหรือขายทิ้ง ? วิธีดูแล "รถยนต์" หลังถูกน้ำท่วม
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
น้ำมาไว ขนอะไรแทบไม่ทัน! เชื่อว่าเป็นคำพูดที่หลายคนโอดครวญในช่วงเวลาที่น้ำท่วมเชียงรายสาหัสตอนนี้ "รถยนต์" ที่จมมิดน้ำ โผล่พ้นรับแสงอีกครั้งก็เต็มไปด้วยดินโคลน มีขั้นตอนต้องจัดการอย่างไร ถ้าค่าซ่อมสูงเกินไป ขายหรือเปลี่ยนรถใหม่จะเป็นทางเลือกใหม่หรือไม่?

เมื่อรถยนต์ถูกน้ำท่วมทั้งคัน นับเป็นเหตุการณ์ที่น่ากังวลอย่างยิ่ง เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจมีตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงเสียหายหนักจนต้องเปลี่ยนรถคันใหม่เลยทีเดียว การจัดการ ดูแลรถหลังน้ำท่วมอย่างถูกต้องถือว่ามีความสำคัญมาก เนื่องจากการท่วมทั้งคันอาจสร้างความเสียหายซ้ำซ้อน กับระบบที่ซับซ้อนต่าง ๆ ของรถยนต์ 

อย่าสตาร์ตรถเด็ดขาด การพยายามสตาร์ตเครื่องยนต์ที่มีน้ำเข้าไปอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายหนักขึ้น เนื่องจากน้ำอาจเข้าสู่กระบอกสูบและระบบไฟฟ้าต่าง ๆ ควรตรวจสอบระดับน้ำที่เข้าไปในรถและสิ่งของต่าง ๆ ในรถก่อน

ประเมินระดับน้ำ-ติดต่อประกันภัย (ถ้ามี) ตรวจสอบว่าระดับน้ำ ท่วมถึงระดับใด และถ่ายรูปบันทึกความเสียหายไว้เป็นหลักฐาน แจ้งบริษัทประกันภัยรถยนต์ทันทีเพื่อให้เจ้าหน้าที่มาเช็กสภาพรถและประเมินความเสียหาย

ลากรถไปยังศูนย์ซ่อมหรืออู่ ติดต่อบริการลากรถเพื่อนำรถไปยังศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถที่มีประสบการณ์ในการซ่อมรถที่ถูกน้ำท่วม อย่าพยายามเคลื่อนย้ายรถเองถ้าไม่มีความจำเป็น

ประเมินความเสียหาย ให้ช่างที่ชำนาญการตรวจสอบระบบต่าง ๆ ของรถ เช่น เครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ระบบไฟฟ้า ระบบเบรก ระบบระบายความร้อน และ ระบบแอร์อย่างละเอียด ตรวจดูว่ามีน้ำเข้าถึงส่วนใดบ้าง

ถ่ายของเหลวทุกชนิด เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก และน้ำมันอื่น ๆ ทั้งหมด เนื่องจากน้ำอาจปนเปื้อนและทำให้ระบบเสียหายได้

ตรวจสอบและซ่อมแซมระบบไฟฟ้า ระบบไฟฟ้าอาจเป็นส่วนที่เสียหายหนักที่สุด ควรตรวจสอบแบตเตอรี่ สายไฟ ฟิวส์ ระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด หากมีการเสียหายควรเปลี่ยนหรือซ่อมแซมทันที

ทำความสะอาดภายในรถ นำ พรม เบาะที่นั่ง ส่วนประกอบภายในที่เปียกน้ำออกจากรถ ทำความสะอาดและตากให้แห้งเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราและกลิ่นเหม็น

ทดสอบรถหลังซ่อมแซมทั้งหมด แต่ต้องทดลองขับรถในพื้นที่ที่ปลอดภัย ตรวจสอบการทำงานของระบบต่าง ๆ หากพบปัญหาเพิ่มเติม ควรแจ้งกลับไปที่ศูนย์ซ่อมทันที

วางแผนการบำรุงรักษาระยะยาว หลังจากการซ่อมแซมแล้ว รถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมอาจเกิดปัญหาในอนาคตได้อีก ควรวางแผนการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจสอบความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว

ท้ายที่สุด หากรถถูกน้ำท่วมทั้งคัน การซ่อมแซมอาจมีค่าใช้จ่ายสูง และควรพิจารณาว่าการซ่อมแซมนั้นคุ้มค่ากับการใช้งานต่อหรือไม่ ในบางกรณีการขายหรือการเปลี่ยนรถใหม่อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

หนีได้หนี ก่อนจะหนีไม่ได้

การขับรถลุยน้ำเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะถือเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อความเสียหายของรถและอันตรายต่อผู้ขับขี่รวมถึงผู้โดยสาร แต่หากจำเป็นต้องขับลุยน้ำจริง ๆ เพราะขืนจอดทิ้งไว้ ความเสียหายจากน้ำท่วมมิดคันอาจมากกว่า ควรปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้เพื่อความปลอดภัย

ก่อนตัดสินใจขับลุยน้ำ

  1. ประเมินสถานการณ์ ตรวจสอบระดับน้ำอย่างละเอียด หากน้ำท่วมสูงเกินครึ่งล้อรถ ควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ หรือ ขับออกไปก่อนที่น้ำจะท่วมเกินครึ่งล้อรถ
  2. ตรวจสอบสภาพรถ ทั้งระบบเบรก ระบบไฟฟ้า และ ยางรถ ให้พร้อมใช้งาน

ขณะขับรถลุยน้ำ

  1. ขับช้า ๆ ใช้ความเร็วต่ำและคงที่ ไม่เร่งเครื่องหรือเบรกกระทันหัน ปิดแอร์ เปิดกระจกเล็กน้อย เพื่อระบายอากาศ
  2. ใช้เกียร์ต่ำ รถเกียร์ธรรมดา ควรใช้เกียร์ 1 หรือ 2 รถเกียร์อัตโนมัติ ควรใช้เกียร์ L
  3. รักษารอบเครื่องให้คงที่ ให้นิ่งที่สุดประมาณ 1,500 - 2,000 รอบ/นาที
  4. หลีกเลี่ยงการขับตามร่องน้ำ อาจทำให้รถเสียหลักได้
  5. อย่าขับตามรถคันอื่นโดยไม่ระวัง ให้เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าเพียงพอ
  6. สังเกตสภาพถนน ระวังหลุมบ่อหรือวัตถุอื่น ๆ ที่อาจซ่อนอยู่ใต้น้ำ

 

หลังจากขับลุยน้ำ

  1. ตรวจสอบเบรก ด้วยการเหยียบเบรกเบา ๆ หลายครั้ง เพื่อไล่น้ำออกจากผ้าเบรก
  2. ตรวจสอบใต้ท้องรถ หารอยรั่วหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
  3. ตรวจสอบระบบไฟฟ้า ตรวจสอบไฟหน้า ไฟท้าย และอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ว่าทำงานได้ตามปกติหรือไม่
  4. นำรถเข้าตรวจเช็กหลังจากขับลุยน้ำ เพื่อตรวจสอบความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นภายใน เช่น เครื่องยนต์ ระบบไฟฟ้า และระบบเกียร์

สิ่งที่ควรระวัง

  • อย่าดับเครื่องยนต์ทันที ควรขับรถต่ออีกสักระยะ เพื่อไล่น้ำออกจากท่อไอเสีย
  • อย่าพยายามสตาร์ตรถซ้ำ หากเครื่องดับกลางน้ำอาจทำให้น้ำเข้าเครื่องยนต์ได้มากขึ้น
  • หากน้ำท่วมสูงเกินไป ควรลงจากรถและขอความช่วยเหลือทันที
  • การขับรถลุยน้ำมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดความเสียหายต่อรถยนต์ หากสามารถหลีกเลี่ยงได้ ควรหลีกเลี่ยง

คำแนะนำเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสภาพอากาศและสภาพถนนก่อนออกเดินทาง เตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉิน เช่น ไฟฉาย ถุงมือ และโทรศัพท์มือถือ 

อ่านข่าวเพิ่ม :

เขื่อนแม่งัดฯ ลดระบายน้ำ หลังฝนตกหนัก

ตาย 1 คนน้ำท่วมแม่สาย ผู้ตกค้างอ่อนแรงอดข้าว 3 วัน

ช่วย 2 ตายายติดหลังคาหนีน้ำท่วมแม่สาย - 80 นร.ปลอดภัยแล้ว

ยกเลิกทุกเที่ยวบิน! หางแดงไฟลท์สุดท้ายออกจากแม่ฟ้าหลวงบ่ายนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง