วันนี้ (12 ต.ค.2567) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีแรงงานไทยเสียชีวิต 1 คน จากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลว่า ตนและผู้บริหารกระทรวงแรงงานขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวที่สูญเสีย ส่วนกรณีผู้เสียชีวิตทางกระทรวงแรงงาน ปลัดกระทรวงแรงงาน และอธิบดีกรมการจัดหางาน ขณะนี้เราทำการตรวจสอบข้อมูลให้ได้ข้อเท็จจริงที่แน่นอน เพราะวันนี้ยังเป็นข้อมูลบางกระแสว่าเป็นพื้นที่ที่ปิดไม่สามารถเข้าไปทำงานได้ แต่ทำไมคนงานไทยถึงเข้าไปทำงานในพื้นที่ตรงนั้นได้
ฉะนั้นตรงนี้จึงขอตรวจสอบกับทาง PIBA ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลเรื่องของแรงงาน แรงงานคนไทยเป็นประเทศหนึ่งที่ PIBA เป็นผู้ดูแล จึงต้องตรวจสอบอย่างชัดเจนว่าที่เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตนั้นไม่ใช่เกิดจากการที่มีการยิงระเบิดเข้ามา ซึ่งอาจเป็นอุบัติเหตุจากระเบิดที่ตกค้างและระเบิดขึ้นมา ส่วนรายละเอียดทั้งหมดปลัดกระทรวงแรงงาน และอธิบดีกรมการจัดหางานจะตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ ต่อไปตามขั้นตอน
ในส่วนของผู้เสียชีวิตกระทรวงแรงงานจะมาดูว่าจะช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง และที่สำคัญไปทำงานผ่านกระทรวงแรงงานหรือไม่ ผ่านกรมการจัดหางานหรือไม่ ซึ่งขอตรวจสอบรายละเอียดตรงนี้ก่อน
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ล่าสุดได้รับทราบรายงานจาก นายกิตติ์ธนา ศรีสุริยะ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอลว่า ในวันนี้ ได้รับแจ้งการเสียชีวิตของแรงงานไทยอย่างไม่เป็นทางการจาก PIBA รวมทั้งแหล่งข่าวท้องถิ่นว่า แรงงานไทยที่เสียชีวิตทราบชื่อ คือ นายนิสันต์ มีรัมย์ อายุ 42 ปี ภูมิลำเนาเป็นชาว จบุรีรัมย์ ได้เสียชีวิตในคิบบุตซ์ ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ทางตอนเหนือของอิสราเอล เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตจากการระเบิดของกระสุนซึ่งตกอยู่ในบริเวณที่ทำงานในไร่แอปเปิ้ล
ทั้งนี้ ฝ่ายแรงงานฯ ได้ตรวจสอบข้อมูลของแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากเว็บไซต์ PIBA พบว่า ผู้เสียชีวิตเดินทางไปทำงานในอิสราเอลด้วยตนเอง ช่วงวันที่ 6 พ.ค.2567 โดยหากมีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลอิสราเอลและสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ จะรายงานให้ทราบต่อไป
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตที่อิสราเอล กระทรวงแรงงานจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและดูแลแรงงานไทยอย่างดีที่สุด
ขณะที่ เจ้าหน้าที่สำนักงานจัดหางาน, ประกันสังคม, แรงงานจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นายเทิดพันธ์ ครอบทอง นายอำเภอกระสัง ลงพื้นที่ไปให้กำลังใจและแสดงความเสียใจครอบครัวของแรงงานไทย หลังจากได้รับการยืนยันชื่อผู้เสียชีวิตจากอัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายแรงงานประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟอย่างไม่เป็นทางการ
ภรรยาผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตามสัญญาแรงงานภาคการเกษตรมีกำหนดทำงานที่อิสราเอล 5 ปี 3 เดือน แต่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา เกิดเหตุสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส สามีจึงเดินทางกลับประเทศไทยเป็นเวลา 7 เดือน ก่อนจะกลับไปทำงานที่อิสราเอลอีกครั้งในเดือน มิ.ย.เพื่อให้ครบตามสัญญา เพราะยังมีหนี้สินกว่า 1 ล้านบาท
ก่อนเกิดเหตุ เธอบอกว่าแชทคุยกับสามีตามปกติ แต่ช่วงบ่ายจนถึงช่วงเย็นของวันที่ 11 ต.ค. ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งช่วงเวลาประมาณ 1 ทุ่ม แรงงานไทยในอิสราเอล ทักเฟซบุ๊กมาหาและได้โทรวิดีโอคอลแจ้งข่าว
ว่าที่ ร้อยตรี สมชาย ละอองทอง รักษาการจัดหางานจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ ยังไม่ได้รับการแจ้งจากทางสถานฑูตไทยในอิสราเอลอย่างเป็นทางการ คาดว่าอยู่ในขั้นตอนของการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเพื่อยืนยันการเสียชีวิต จากนั้นจึงจะเดินเรื่องและติดตามกรณีที่ญาติ ต้องการให้นำร่างผู้เสียชีวิตมาประกอบพิธีที่ภูมิลำเนาตามขั้นตอน รวมทั้งตามติดเรื่องกรณีการช่วยเงินช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิประโยชน์ที่แรงงานควรจะได้รับ
อ่านข่าว : ยังไม่แจ้งข้อหา "บอสพอล" แซม-มิน เข้าให้ข้อมูลตำรวจ ปคบ.
"หมูเด้งฟีเวอร์" วันหยุด คนแห่ชม-รถติดยาว
17 ต.ค.นี้ "ซูเปอร์ฟูลมูน" ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบปี