วันนี้ (29 ต.ค.2567) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กล่าวว่า การรวบรวมสำนวนการสอบสวนเบื้องต้น ขณะนี้สามารถส่งสำนวนให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้แล้วจำนวน 18 กล่อง หรือจำนวนกว่า 150 แฟ้ม แต่ยังมีอีกบางส่วนที่อยู่ระหว่างเร่งรวบรวมสำนวนส่งเพิ่มเติมให้อย่างเร่งด่วนที่สุด หลังมีคำสั่งให้โอนสำนวนคดีเป็นคดีพิเศษ
เนื่องจากการรวบรวมพยานหลักฐานที่ผ่านมา เข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 อยู่ในมูลฐานความผิดการฟอกเงิน รวมถึงมูลค่าความเสียหายและจำนวนผู้เสียหาย เข้าลักษณะเป็นคดีพิเศษ
พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)
การส่งมอบสำนวนจึงเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และยืนยันว่าการส่งสำนวนคดีต่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษไม่มีช่องโหว่ โดยทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยังเปิดรับแจ้งความอย่างต่อเนื่อง หรือประชาชนสามารถเดินทางไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้เช่นกัน
พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า นอกจากนี้หลังรับเป็นคดีพิเศษ พร้อมแจ้งข้อหา 18 บอส ชุดแรกที่โดนข้อหาพ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน จากเดิม 48 วันหรือ 4 ฝาก เป็น 7 ฝาก 84 วัน ซึ่งจะทำให้มีเวลาในการสอบสวนเพิ่ม
ขณะนี้รวมเป็นสำนวนเดียวกัน จากเดิมฉ้อโกงประชาชน แต่เมื่อสอบสวนแล้ว พบว่าทำผิด พ.ร.ก.กู้ยืมเงิน จึงรวมกันเป็นสำนวนเดียวกัน
อ่านข่าว ทนายบอสพอลจ่อยื่นเปลี่ยนสถานะ 5 แม่ทีมดิไอคอนเป็นผู้ต้องหา
พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า แต่หากดีเอสไอ มีการประกาศรับเป็นคดีพิเศษแล้ว ทางอธิบดีดีเอสไอ ก็มีอำนาจในการขอความร่วมมือในบางเรื่องที่ให้ตำรวจดำเนินการแทนได้ เช่น การรับคำร้องทุกข์ของผู้เสียหายให้ ตำรวจก็จะดำเนินการและส่งเรื่องให้ ถือเป็นอำนาจของดีเอสไอ ในการขอสนับสนุนจากหน่วยงานอื่น เชื่อว่าดีเอสไอจะรับเป็นคดีพิเศษโดยเร่งด่วนเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนของประชาชน
ส่วนหมายจับของผู้กระทำความผิดล็อต 2 ที่ตอนนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวน และวิเคราะห์คำให้การนั้น คงต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน ซึ่งจะส่งรายละเอียดให้ดีเอสไอด้วยเช่นกัน
สำหรับคดีมาดามอ้อย เรื่องเงิน 71 ล้านบาท ขณะนี้เข้ามาให้ปากคำที่ตำรวจสอบสวนกลางแล้ว ยังยืนยันว่า CBI ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายไม่ได้ทำตาม กระแส แต่ได้ทำตามกระบวนการ
ส่วนของกลางในคดี เช่นรถหรู 35 คันตอนนี้ได้คุยกับทางดีเอสไอว่าจะนำไปดูแลหรือยังไว้ที่สอบสวนกลางก่อน ซึ่งปปง.จะดูเรื่องการฟอกเงินเป็นหลักเมื่อรับสำนวนไปแล้วทางดีเอสไอ จะดำเนินการต่อทั้งเรื่องของการขยายผลเรื่องทรัพย์สินต่าง ๆ
ส่งสำนวนคดีดิไอคอนให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ
กระทู้สด ปมดิไอคอน
นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ในวาระกระทู้ถามเป็นหนังสือโดยนายชิบ จิตนิยม สมาชิกวุฒิสภา ตั้งประเด็นคำถามเรื่องมาตรการเร่งด่วน ดิไอคอน กรุ๊ป ที่มีผู้เสียหายเกือบ 10,000 คน โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีมอบหมายนายประเสริฐ จัทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตอบกระทู้
ภาพรวมการอายัดทรัพย์สิน ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอน ล่าสุดโอนคดีหลักเข้าสู่ DSI เป็นคดีพิเศษ เพราะเห็นว่าอาจจะเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงิน ส่วนเรื่องการเยียวยา ปปง.จะปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไป
จากนั้นนายชิบ ถามถึงมาตรการที่รัฐบาลจะทำให้ประชาชนไว้วางใจการทำงานของเจ้าหน้าที่และหน่วยงานของรัฐ เพราะประชาชนเป็นผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากจากกระบวนการต่างๆ
รถหรูของกลางในคดีดิไอคอน
นายประเสริฐ ตอบว่า กระทรวงได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ซึ่งได้มีอนุของคณะขึ้น 2 ชุด ประกอบด้วยชุดแรกนำสืบค้นหาข้อมูลทั้งหมดเพื่อประกอบการพิจารณา และอนุชุดที่ 2 คือการดำเนินการแก้ไขเรื่องนี้ในอนาคต วันนี้อนุทั้ง2 คณะ จะเข้ามารายงานกับคณะทำงานชุดใหญ่เพื่อดำเนินการ อย่างเข้มงวดในเรื่องนี้ต่อไป
หากพบว่าเรื่องนี้ใครมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้และเห็นว่ากระทบต่อประชาชนในวงกว้างในอนาคต หรืออาจจะมีเรื่องในลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต
อ่านข่าว
อัปเดตคดีดิไอคอน ยอดผู้เสียหาย 9,472 คน มูลค่า 2,918 ล้านบาท