ลุ่มน้ำบางปะกง ไม่กร่อย “ขาใหญ่” แปดริ้ว สกัดโต “ก๊วนผู้กอง”

แปดริ้ว เมืองน้ำกร่อย แต่สถานการณ์เมืองท้องถิ่น ไม่กร่อยเหมือนน้ำ หากไม่ประนีประนอม คงเดือดไม่แพ้เมืองปราจีนบุรี นับเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี เมื่อ 3 ตระกูลบ้านใหญ่ “ฉายแสง-ตันเจริญและจารุสมบัติ” ตั้งค่ายสู้ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” หัวหน้าพรรคกล้าธรรมตัวจริง หวังเจาะเก้าอี้นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ดันเลือดแท้กลุ่มแปดริ้วโฉมใหม่ “นายกไก่” กิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ. 4 สมัย สู้ศึกเลือกตั้งวันที่ 1 ก.พ.2568

โดยวันที่ 19 ธ.ค.2567 ทีมบริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา ภายใต้การนำของ “นายกไก่” กิตติ และกลุ่มแปดริ้วโฉมใหม่จะครบวาระการดำรงตำแหน่ง และได้ประกาศพร้อมลงชิงชัยอีกครั้ง ภายใต้ร่มเงาของผู้กองธรรมนัส หลัง ”ตระกูลตันเจริญ” แตกคอกับ “กลุ่มนายกไก่” ทำให้ นายกไก่ “กิตติ” กลับไปหนุนคนใน “ตระกูล ศิริลัทธยากร” ลงสส.พรรคพลังประชารัฐ

จนสามารถส่ง “เบ็นซ์” อรรถกร ศิริลัทธยากร เป็นสส.และเข้าไปดำรงตำแหน่งรมช.เกษตรฯ และมีความแนบแน่นกับผู้กองธรรมนัส แน่นอน ภาพความสัมพันธ์เช่นนี้ อาจส่งกระทบระยะยาวต่อผลประโยชน์ทางการเมือง แม้ก่อนหน้านี้พ่อมดดำ “สุชาติ” จะมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับ นายกไก่ “กิตติ” มาตลอดก็ตาม

อ่านข่าว “โกทร” บ้านใหญ่ปราจีนฯ ถึงคิวสู้คดีใหม่ “ฆ่า” สจ.โต้ง

แต่เมื่อความสัมพันธ์เปลี่ยนขั้ว ทำให้ 3  ขาใหญ่เมืองแปดริ้ว นั่งมองแม่น้ำบางปะกงไหลผ่านหน้าบ้านไม่ได้อีกแล้ว โดยเฉพาะ ”บิ๊กอ๋อย” จาตุรนต์ ฉายแสง และพ่อมดดำ “สุชาติ ” ผู้กว้างขวางตัวจริงในพื้นที่ อ.พนมสารคาม และคนดังอ.บ้านโพธิ์ “พินิจ จารุสมบัติ” รวมพลตั้งป้อมตีโต้กลับ

ส่ง “ก้อย” กลยุทธ ฉายแสง” นายกเทศมนตรีเมืองฉะเชิงเทรา ลงสมัคร นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ท้าชนนายกไก่ “กิตติ” ทำเอาการเมืองน้ำกร่อย กลายเป็นน้ำเดือดทันควัน

กลยุทธ ฉายแสง

เมื่อต้นเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา “ก้อย” กลยุทธ ปรากฏตัวอยู่ที่บ้านของพ่อมดดำ “สุชาติ” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ จ.นนทบุรี พร้อมตัวแทนจาก “ตระกูลจารุสมบัติ -นพเกตุ และชูทับทิม” โดยเฉพาะ “มติชน ชูทับทิม” อดีตผู้สมัคร สส. พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่นายกไก่ “กิตติ” เคยสนับสนุนส่งลงสนามเลือกตั้ง สส.เขต 1 ฉะเชิงเทรา เมื่อครั้งที่ผ่านมา จนเกือบจะได้รับตำแหน่ง สส. ฉะเชิงเทรา ด้วยคะแนนกว่า 33,000 คะแนน ไล่ตามหลัง “เปิ้ล” ฐิติมา ฉายแสง สส.ฉะเชิงเทรา เขต 1 พรรคเพื่อไทยคนปัจจุบันอยู่เพียงกว่า 2,000 คะแนนเท่านั้น

ให้หลังอีกหนึ่งสัปดาห์ เกิดเหตุการณ์รวมพลคนการเมืองแปดริ้ว ทั้งระดับชาติและท้องถิ่น ในระดับแม่น้ำบางปะกงเชี่ยวกราก ในรอบกว่า 30 ปี เมื่อบ้านใหญ่ฉายแสง นำโดย จาตุรนต์ ฉายแสง พี่ชายคนโต และฐิติมา สส.ฉะเชิงเทรา เขต 1 คุมทัพ สจ.เขต อ.เมือง พบกับบ้านตันเจริญ มี “พ่อมดดำ” สุชาติ เป็นโต้โผใหญ่ ให้ “มดเล็ก” ศักดิ์ชาย ตันเจริญ สส.ฉะเชิงเทรา เขต 3 คุมทัพ สจ.เขต อ.พนมสารคาม และ อ.สนามชัยเขต

อ่านข่าว กกต.เผย 1 ก.พ.เลือกตั้ง ส.อบจ. 76 จังหวัด นายก อบจ. 47 จังหวัด

และกลุ่มจารุสมบัติ “พินิจ จารุสมบัติ” หวนกลับคืนสังเวียนการเมืองอีกรอบ ให้หลานชาย “นายกมะกัน” ธนะเกียรติ นพเกตุ นายก อบต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว เป็นผู้ประสานงาน ร่วมกับ “บ้านใหญ่บางคล้า” สมชัย อัศวชัยโสภณ อดีต สส.ฉะเชิงเทรา เข้าร่วมด้วย

ทั้งหมดเป็นคนเมืองแปดริ้ว โดยกำเนิด แม้จะมีการแยกย้ายไปตั้งฐานการเมืองในจังหวัดอื่น โดยเฉพาะ “พินิจ” ที่ไปเติบโตทางการเมืองอยู่ในภาคอีสาน และสนับสนุนพี่ชาย-พล.ต.ท.พิทักษ์ จารุสมบัติ ให้เป็น สส.ฉะเชิงเทรา ปี 2554 แต่ภายหลัง พล.ต.ท.พิทักษ์ แพ้ต่อเนื่อง

อ่านข่าว ทักษิณท้ารบ “ภูมิใจไทย” ปมสังหาร “สจ.โต้ง” ล้างอิทธิพล “โกทร”

พินิจ เป็นคนบ้านตาถั่ว ต.บางกรูด อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา เติบโตในตระกูลครอบครัวคนจีน อาชีพทำการค้า มีโรงสีไฟรุ่งเรือง อยู่ที่คลองเจ้า จึงได้เรียนมัธยมที่ รร.เซนต์หลุยส์ ในตัวเมืองแปดริ้ว ก่อนจะเข้าไปเรียนคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ปี 2531 พินิจ ลงสมัคร สส.ฉะเชิงเทรา ในสังกัดพรรคราษฎร แต่พ่ายแพ้เจ้าถิ่นตระกูลฉายแสง พินิจ จึงย้ายไปอยู่อีสาน เป็น สส.หนองคาย และรัฐมนตรีหลายกระทรวง

หลังรัฐประหาร 2549 พินิจ วางมือการเมือง ไปเป็นประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ และในพื้นที่แปดริ้ว แต่ยังสนับสนุนน้องสาว-พรรณี จารุสมบัติ เป็น สว.ฉะเชิงเทรา

และพี่ชาย-พล.ต.ท.พิทักษ์ จารุสมบัติ เป็น สส.ฉะเชิง เทรา เขต 4 ฐานเสียงหลักอยู่ที่ อ.บ้านโพธิ์ และ อ.แปลงยาว โดยมี ธนะเกียรติ นพเกตุ นายก อบต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว รับช่วงต่องานการเมือง

ส่วน “พ่อมดดำ” สุชาติ บ้านใหญ่พนมสารคาม หากยังจำกันได้ เคยมีข้อขัดแย้งกับนักการเมือง “ซุ้มนายกไก่” กิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทราเมื่อปี 2566

ที่ผ่านมา สุชาติ หนุนบ้านใหญ่ตระกูลเป้าเปี่ยมทรัพย์ สู้ศึกนายก อบจ. ตั้งแต่ปี 2555 และปี 2563 แต่ในครั้งนี้ พ่อมดดำกลายเป็นคู่แข่งของกลุ่มแปดริ้วโฉมใหม่

นายกไก่ "กิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์"

สำหรับ “นายกไก่”กิตติ อยู่ในการเมืองท้องถิ่นแปดริ้วมานาน ผ่านการเลือกตั้งเป็น ส.อบจ.เขตเมืองฉะเชิงเทรามา 2 สมัย แต่ปี พ.ศ.2538 และได้รับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2547 ยาวนาน 4 สมัย รวม16 ปี และได้เพิ่มช่วงพิเศษยุค คสช.อีก 4 ปี หรือเกือบ 20 ปีเต็ม

ที่ผ่านมา นายกไก่ “กิตติ” มีความสัมพันธ์กับทุกซุ้ม ยกเว้นตระกูลฉายแสง ดังนั้นเมื่อทุกตระกูลบ้านใหญ่ และซุ้มการเมือง มีมติตรงกัน“จาตุรนต์-สุชาติ-พินิจ” เปิดหน้าท้าชนนายกไก่ “กิตติ”

ทำให้เซียนการเมืองภาคตะวันออกตลอดลุ่มน้ำบางปะกง ต้องรอลุ้นจนหืดจับว่าระหว่าง “ก้อย” กลยุทธ และ “ไก่” กิตติ ใครจะอยู่หรือไปในสนามการเมืองแปดริ้ว

อ่านข่าวอื่นๆ

เพื่อไทย แจงปม "สจ.จอย" จ่อถอนตัวชิงอบจ.ปราจีนบุรี