ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

สธ.แจง "ไข้ดำแดง" ไม่ใช่โรคอุบัติใหม่ พบ 2 เดือนป่วย 455 คน

สังคม
1 มี.ค. 68
13:09
4
Logo Thai PBS
สธ.แจง "ไข้ดำแดง" ไม่ใช่โรคอุบัติใหม่ พบ 2 เดือนป่วย 455 คน
กรมควบคุมโรค ชี้แจง "ไข้ดำแดง" ไม่ใช่โรคอุบัติใหม่ แต่เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ส่วนใหญ่ผู้ป่วยเป็นเด็กอายุ 5-15 ปี อาการไม่รุนแรง ช่วง ม.ค.-ก.พ.2568 พบป่วย 455 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต

วันนี้ (1 มี.ค.2568) นพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค  กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่า พบเด็กนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ป่วยเป็นโรคไข้ดำแดง และมีการหยุดเรียนในบางชั้นเรียน ว่า กรมควบคุมโรค ดำเนินการป้องกันควบคุมโรค ตามมาตรการอย่างเคร่งครัด โดยให้โรงเรียนคัดกรองเด็กทุกเช้า และให้เด็กที่ป่วยหยุดเรียน รวมทั้งขอความร่วมมือผู้ปกครองเฝ้าระวังโรคและสังเกตอาการของบุตรหลานอย่างใกล้ชิด พร้อมทำความสะอาดอุปกรณ์ ของใช้ และของเล่นต่าง ๆ

นพ.ภาณุมาศ ย้ำว่า โรคไข้ดำแดง ไม่ใช่โรคอุบัติใหม่ ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะโรคนี้เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อ “สเตรปโตคอคคัสชนิดเอ” ก่อให้เกิดโรคหลายชนิด เช่น คออักเสบ โรคติดเชื้อทางผิวหนัง แต่ส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง

จากข้อมูลของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค สถานการณ์ของโรคไข้ดำแดง ในวันที่ 1 ม.ค.-ถึง 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2568 พบผู้ป่วยจำนวน 455 คน ไม่พบรายงานผู้เสียชีวิต ค่ามัธยฐานผู้ป่วย 5 ปีย้อนหลังพบผู้ป่วยจำนวน 605 คนต่อปี

สำหรับโรคไข้ดำแดงมักจะเกิดในเด็กอายุระหว่าง 5-15 ปี แต่กลุ่มอายุอื่นก็สามารถเกิดโรคไข้ดำแดงได้เช่นกัน อาการของโรคจะเริ่มจากมีอาการไข้ เจ็บคอ มีผื่นแดงตามลำคอ รักแร้ ลำตัว แขน หรือขา ลักษณะของผื่นเมื่อสัมผัสจะคล้ายกระดาษทราย ใบหน้าแดง ริมฝีปากซีด และอาจมีปื้นขาวที่ลิ้น ซึ่งภายหลังจะลอกออกทำให้ลิ้นมีลักษณะบวมแดง

การติดต่อมักเกิดจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการ หรือผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียก่อโรค หรือหายใจเอาละอองฝอยที่ติดเชื้อเข้าทางระบบทางเดินหายใจ ส่วนการติดเชื้อผ่านการรับประทานอาหารสามารถพบได้แต่น้อย

ทั้งนี้ การป้องกันโรค คือ ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ, หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคไข้ดำแดง, สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่อมีความจำเป็นต้องใกล้ชิดผู้ป่วย, ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย โดยเฉพาะของใช้ส่วนตัว เช่น ผ้าเช็ดหน้า เครื่องนอน, ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ ก่อนและหลังสัมผัสผู้ป่วย หรือของใช้ของผู้ป่วย

หลีกเลี่ยงการขยี้ตา แคะจมูก หรือปาก, หากพบเด็กป่วยควรแยกออกจากเด็กปกติทันที และหากพบผู้ป่วยหลายคนควรแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้าน โดยสอบถามข้อมูลได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

อ่านข่าว : ใครบ้างเสี่ยง? เช็กอาการไข้อีดำอีแดงระบาดในโรงเรียน 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง