ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"อังคณา"

การเมือง
10 มี.ค. 68
15:54
0
Logo Thai PBS
"อังคณา"
“อังคณา” เหน็บทักษิณคิดไปเอง คนชายแดนใต้ต้อนรับ ทั้งที่เขาไม่รู้สึกอะไร แทนที่จะพูดความจริงว่า สส.เพื่อไทยหนี หนีคดีตากใบ แม้จะเป็นที่ปรึกษาปธ.อาเซียนก็ช่วยไม่ได้ เหตุเป็นตัวกลางประสานงานโดยจะไม่แทรกแซง และใช้การเมืองนำการทหารแก้ปัญหาภาคใต้

วันนี้ (10 มี.ค.2568) นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค ของวุฒิสภา กล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนใต้ว่า ทุกปีในช่วงเดือนรอมฎอนจะมีการพูดคุยว่า ไม่มีการใช้ความรุนแรง และช่วง 2 -3 ปีที่ผ่านมาพบว่าช่วงเดือนรอมฎอนจะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น

สำหรับในปีนี้ผ่านมา เพียงหนึ่งสัปดาห์พบว่า มีการใช้ความรุนแรง โดยกรณีที่มีการโจมตี อส. ซึ่งถือว่าเป็นพลเรือน ไม่ได้เป็นทหาร ถือว่าเป็นการกระทำต่อพลเรือน และจากข้อมูลทราบว่ากระบวนการผู้ก่อเหตุเห็นว่า บุคคลใดก็ตามที่อยู่ฝั่งภาครัฐคือศัตรู แม้จะเป็นชาวมุสลิมหรือไม่ใช่มุสลิม ไม่ได้มีการแยกแยะ ซึ่งจะเห็น อส. ที่เป็นชาวมุสลิมก็ถูกทำร้ายถึงแก่ชีวิต

ส่วนข้อสังเกตที่ว่า สาเหตุหนึ่งมาจากกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นำมาซึ่งความรุนแรง นางอังคณา กล่าวว่า นายทักษิณได้ลงพื้นที่และคิดเข้าข้างตนเองว่า ประชาชนต้อนรับ หากเปรียบเทียบกับอดีตที่รับรู้ด้วยกิริยาท่าทางของคนในพื้นที่ว่าไม่ชอบ

“คุณทักษิณต้องอย่าลืมว่าเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่มีใครลืม แม้คุณทักษิณจะขออภัยกรณีตากใบ แต่ช่วงที่ สส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในจำเลยในคดี ไม่ได้ปรากฏตัวในศาล ทำให้คดีไปต่อไม่ได้ ตรงนี้ เชื่อว่าเป็นเหตุหนึ่ง จะบอกเลยว่า ในคดีตากใบดำเนินไปได้ อย่างน้อยที่สุดเป็นการเปิดเผยความจริงในศาล ให้รู้ว่ามีใครที่เกี่ยวข้อง และสุดท้ายหากศาลพิพากษาออกมาอย่างไร ก็ถือว่ายุตติจบ พอใจทั้งสองฝ่าย หากคาราคาซังแบบนี้ ก็ยังมีอะไรที่ค้างคาใจกันอยู่”

นางอังคณา กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของประธานกลุ่มอาเซียน กับการขอความช่วยเหลือจากทางมาเลเซียนั้นว่า มาเลย์อยู่ในฐานะผู้อำนวยความสะดวกให้ฝ่ายไทย ได้คุยกับอีกฝ่าย โดยมารยาทจะไม่มีการแทรกแซง แต่ปัญหาวิธีการพูดคุย ต้องคุยทั้งบนโต๊ะเจรจา และคนในพื้นที่ ซึ่งหากถามเจ้าหน้าที่ว่าใครเป็นใคร เชื่อว่าต่างก็รู้ หรือคนที่ทำงานในพื้นที่ก็จะรู้ว่าคนที่จะคุยกับใคร

รัฐบาลไม่ได้ส่งสัญญาณ ที่จะพูดคุยกับคนที่เห็นต่างทางความคิด แต่กลับส่งเสริมและมุ่งที่จะคุยกับผู้ที่สนับสนุนพัฒนา คนที่เห็นด้วยกับรัฐบาลมากกว่า ตรงนี้ทำให้ปัญหายืดเยื้อ และอีกอันที่ต้องไม่ลืม และหลายคนวิพากษ์วิจารณ์ คืองานการข่าว ที่มีการพูดมานานแล้วว่าน่าเชื่อถือ เหตุใดรัฐจึงไม่รู้มาก่อนว่า จะมีการก่อเหตุในลักษณะนี้

อีกอย่างที่ต้องไม่ลืมคือ ผู้ก่อเหตุที่เห็นต่าง BRN คือลูกหลานของคนในพื้นที่ เพราะฉะนั้นความเป็นพี่น้องยังมีอยู่ ทำอย่างไรจะคุยให้เข้าใจสำคัญ อย่างกรณีตากใบ แทนจะขอโทษ คุณทักษิณควรชี้แจงว่า เกิดอะไรขึ้นจึงไม่ให้ สส. ในพรรคตัวเองขึ้นศาล อย่างน้อยควรเปิดเผยความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น

นางอังคณากล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังกล่าวถึงคณะเจรจา นางอังคณาเห็นว่า คณะพูดคุยชุดก่อนมีทหารระดับสูงเข้าไปด้วย ส่วนตัวเห็นว่าคือ ข้อขัดแย้ง หากนำคู่ขัดแย้งหรือคนที่ชาวบ้านเชื่อว่า ทำการละเมิดเข้าไปนั่งอยู่บนโต๊ะ การเจรจาจะเป็นไปได้อย่างไร

ซึ่งหลักการที่สำคัญการพูดคุย 2 ฝ่าย จะต้องเท่ากัน และต้องสร้างความไว้วางใจต่อกัน หากนำคนที่ คนในพื้นที่ไม่ไว้วางใจนั่งเจรจา เป็นสิ่งหนึ่งที่รัฐบาลต้องคำนึงถึง อย่างที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า การเจรจาอาจพูดคุยถูกคน ซึ่งส่วนตัวเห็นด้วย ทั้งในระดับพื้นที่ และระดับการพูดคุยบนโต๊ะ

หากจะแต่งตั้งทหารฝ่ายไทยเข้าสู่คณะเจรจา จะต้องมีกองกำลังติดอาวุธที่เป็นเป็นตัวแทนร่วมพูดคุยด้วย และเวลาที่ที่นั่งพูดคุยจะต้องมีหลักประกันความปลอดภัยหากมีการปรากฏตัว ส่วนตัวมองว่าที่ผ่านมาไม่ได้ประโยชน์

นอกจากนี้ยังทักท้วงเรื่องกรรมาธิการสันติภาพของสภาผู้แทนราษฎรที่ศึกษามานาน 2 ปี ยังไม่มีความคืบหน้า แต่ท้ายที่สุดจะดำเนินการอย่างไรให้ได้ข้อสรุปยุตติ ย้ำว่า ความจริงใจเป็นเรื่องสำคัญมาก พร้อมเสนอแนะให้ติดตามว่ารัฐสภาได้มีมติยกเลิกคำสั่ง คสช. เรื่องการจำกัดตั้งสภาที่ปรึกษา ซึ่งตอนนี้ยกเลิกไปแล้ว ซึ่งหากรัฐบาลต้องการให้ช่วยก็พร้อม

“จึงต้องการเห็นการตั้งสภาที่ปรึกษาเข้ามาทำหน้าที่ ใช้การเมืองนำการทหารให้เต็มที่ เพราะที่ผ่านมาเป็นทหารนำการเมือง มาตลอด ส่วนเรื่องใดหากไม่พอใจหรือไม่ถูกใจก็ใช้กระบวนการไอโอ คุกคามคนเห็นซึ่งไม่ได้แก้ไขปัญหา เราอยากให้คุยกันอย่างตรงไปตรงมาไม่ใช่การเอาใจ อย่างที่คุณทักษิณลงพื้นที่คิดเอาเองว่าคนต้อนรับแต่ในข้อเท็จจริงไม่ใช่เช่นนั้นจากที่ได้คุยกับชาวบ้านหลายคนไม่ได้รู้สึกแบบนั้น” นางอังคณากล่าว

อ่านข่าว : ยังไม่เผา! อดีตผู้กำกับโจ้ ปมคาใจตายในเรือนจำ-สวดคืนแรก

ราชกิจจาฯ ประกาศคำพิพากษาถึงที่สุด เพิกถอน "ใบสั่ง-ค่าปรับจราจร"

โอกาสแค่ไหน? ปรับเบี้ยบำนาญผู้ประกันตน-ควบรวม 3 กองทุนสุขภาพ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง