ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“ทวี” ยัน “ชาวอุยกูร์” สมัครใจกลับจีน ถ้าไม่เชื่อให้ดูเอกสารที่ สมช.

การเมือง
25 มี.ค. 68
00:02
210
Logo Thai PBS
“ทวี” ยัน “ชาวอุยกูร์” สมัครใจกลับจีน ถ้าไม่เชื่อให้ดูเอกสารที่ สมช.
อ่านให้ฟัง
05:27อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
“ทวี” ยัน “ชาวอุยกูร์” มีบันทึกสมัครใจยินยอมกลับจีน แนะ “กัณวีร์” ถ้าอยากดูให้ทำเรื่องไปที่ สมช.

วันนี้ (24 มี.ค.2568) เวลาประมาณ 22.00 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ชี้แจงกรณีส่งชาวอุยกูร์กลับประเทศจีนว่า เข้าใจดีว่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์มีคุณค่ามีความสำคัญ ในชีวิตยึดถือสิ่งนี้ตลอดมา ต้องยอมรับว่า เมื่อเข้ามาเป็น รัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการทำให้บุคคลสูญหาย

สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาของประเทศมายาวนานคือ ชาวอุยกูร์ที่อยู่ในสถานกักตัวคนต่างด้าว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งห้องกักขังมีสภาพทำผิดกฎหมายมาตรา 6 ของ พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการทรมาน หรือศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์หรือไม่ จึงมีการตั้งกรรมการที่เป็นบุคคลภายนอกหลายท่านเข้าไปดูในห้องกักของ สตม.

กระทั่งมีการนำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการฯ ได้ข้อสรุปว่า สภาพเขาไม่ต่างจากสัตว์ที่อยู่ในห้องกักที่มีคนประมาณพันกว่าคน และมีคนตายไปแล้ว 4 คน จึงต้องหาทางออก คณะกรรมการฯ มีข้อเสนอ 1.ขอให้ส่งกลับจีนโดนสมัครใจ 2.ให้ส่งไปยังประเทศตะวันตกที่เป็นประเทศใหญ่ๆ 3.ส่งไปประเทศคนกลาง และ 4.มีการขยายพื้นที่แห่งใหม่

พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า เมื่อนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยอัยการสูงสุด เข้าประชุมด้วยเห็นว่า ควรมีการส่งกลับโดยสมัครใจ และได้รับการยินยอม ซึ่งตนและสมช.ก็มีกระบวนการที่นำชาวอุยกูร์ 10 กว่าคน ที่ถูกส่งกลับไปก่อนหน้านี้แล้ว ส่งวิดีโอมาคุยกับคนที่ห้องกัก และทราบว่า ทุกคนมีบันทึกสมัครใจและยินยอมกลับ

ยืนยันว่าเห็น และถามเลขาฯ สมช. ว่า หากมีการขอดูจะได้หรือไม่ เพราะถือเป็นเอกสารชั้นความลับของ สมช. อีกทั้งผู้สมัครใจกลับมีความหวาดกลัวพอสมควร จึงอยากให้นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ทำเรื่องตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารไปที่ สมช. ท่านก็จะได้เห็น

พ.ต.อ.ทวี ยืนยันด้วยว่า ตามกฎหมายเขาอยู่ในสภาพที่ถูกทำลายศักด์ศรีความเป็นมนุษย์มา 10 ปี มีคนเสียชีวิต และเจ็บป่วย ในสภาพที่ไม่รู้ว่าจะส่งทอดมรดกของการกักขังไปอีกนานเท่าไหร่ เพราะ 11 ปีที่ผ่านมา เราอาจไม่กล้าตัดสินใจ ซึ่งการส่งกลับเราคำนึงถึงมาตรา 13 ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการทำให้บุคคลสูญหาย ที่บัญญัติห้ามมิให้หน่วยงานรัฐส่งตัวบุคคลไปยังรัฐหนึ่ง

หากมีเหตุอันควรเชื่อว่า บุคคลนั้นจะตกอยู่ในอันตราย หรือถูกย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หรือ ถูกกระทำให้สูญหาย อัยการสูงสุดเห็นว่า เป็นการดำเนินการตามคำยืนยันของบันทึกทางการทูต ประกอบกับเป็นความผิดลหุโทษ และจะไม่มีการแจ้งข้อหาความผิดอื่น เมื่อกลับไปจีน จึงสามารถส่งกลับสู่ครอบครัวที่จีนได้ทันที และไทยฐานะผู้รับผิดชอบบริหารจัดการผู้ลี้ภัยเข้าเมืองชาวอุยกูร์ สามารถเดินทางไปจีน เพื่อตรวจสอบติดตามบุคคลดังกล่าว จึงถือว่าคำมั่นสัญญาเป็นทางการ ที่ไม่ปรากฏบ่อยนักของประเทศมหาอำนาจ

“ยืนยันว่า อุยกูร์กลุ่มนี้ไม่มีหนังสือจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่แห่งสหประชาชาติ ว่ามีสถานะเป็นผู้ลี้ภัย แต่เป็นเพียงผู้หลบหนีเข้าเมือง ถ้าเป็นผู้ลี้ภัย UNHCR ต้องส่งหนังสือมา และไม่ว่าเราจะถูกกดดันด้วยประเทศมหาอำนาจทางการค้า แต่ทำให้ทั้ง 40 คน มีชีวิตที่ดีขึ้น

ผมคิดว่าความยุติธรรม และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ย่อมมีความสำคัญกว่า ผมได้ไปพบครอบครัวชาวอุยกูร์ 3 คน เหมือนเขาได้ชีวิตกลับมา เรื่องสิทธิมนุษยชนเรื่องทำถูกกฎหมายให้เขากลับไปมีชีวิตที่ดีขึ้น สวัสดิการของจีนดีกว่าของไทยเยอะ เขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ซึ่งผมรู้สึกเสียใจต่อท่านที่อภิปรายแล้วใช้คำพูดที่ด้อยค่า ด้อยค่าผมไม่เป็นไร แต่ท่านด้อยค่าคนที่ไปมีชีวิตที่ดีขึ้น ด้อยค่าจีนที่เป็นประเทศมหาอำนาจของยูเอ็น ท่านไปว่าเขาโหดร้าย ผมรู้สึกเสียใจกับคำพูดของท่าน” พ.ต.อ.ทวี กล่าว

อ่านข่าว : "กัณวีร์" ยกไทม์ไลน์ 73 วันรัฐบาลโกหก เปิดคลิปเสียงอุยกูร์ไม่ขอกลับจีน

ประท้วงวุ่น! ภูมิธรรมท้าเปิดกูเกิล "กี้กี้" ภราดรตัดจบ "ทุกคนนั่งลง"

นายกฯ ยกวาระฝุ่น PM2.5 เป็นวาระอาเซียน ทุกกระทรวงพร้อมร่วมแก้ปัญหา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง