อัยการสูงสุดยืนยันไม่ยื่นฎีกา คดีเลี่ยงภาษีหุ้นชินฯ
นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ และ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ชี้แจงเหตุผลกรณีที่นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฎีกาคดีเลี่ยงภาษีบริษัทชินคอร์ปฯ ทั้งในส่วนที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นางกาญจนาภา หงส์เหิน เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน และ ที่ให้รอลงอาญานายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ อดีตประธานบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พี่ชายบุญธรรมคุณหญิงพจมาน ในคดีเลี่ยงภาษีหุ้น โดยอัยการสูงสุดเห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ทุกประเด็น
ในประเด็นความผิดของนายบรรณพจน์ข้อหาหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกเป็นเวลา 3 ปี ปรับ 100,000 บาท แต่โทษจำคุกรอลงอาญา 1 ปี เห็นว่าเป็นการใช้ดุลพินิจเหมาะสมแก่รูปคดีแล้ว เนื่องจากความผิดทางอาญาเป็นเพียงมาตรการที่ใช้เสริมการจัดเก็บภาษีให้มีประสิทธิภาพไม่ได้มีเจตนารมณ์จะลงโทษจำคุกผู้ที่ไม่ยอมชำระภาษี ซึ่งจำเลยได้เสียภาษีเรียบร้อยแล้วจึงไม่มีเหตุต้องฏีกา
ส่วนประเด็นที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องคุณหญิงพจมาน และ นางกาญจนาภา ในความผิดฐานร่วมกับนายบรรณพจน์ หลีกเลี่ยงการเสียภาษีนั้นมีพยานเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด เบิกความว่า การซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์มีตัวแทนถือหุ้นแทนเจ้าของที่แท้จริงเป็นจำนวนมาก เนื่องจากไม่มีกฎหมายห้าม และ สามารถโอนหุ้นที่ตัวแทนถืออยู่ให้แก่บุคคลอื่นได้แต่ต้องเป็นการซื้อขายหุ้นผ่านตลาดหลักทรัพย์
ส่วนประเด็นที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องนายบรรณพจน์ และ คุณหญิงพจมาน ในความผิดฐานร่วมกันแจ้งข้อความเท็จ วินิจฉัยว่า คดีนี้เจ้าพนักงานประเมินไม่ได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติ และ ขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดเป็นการกระทำที่ไม่ชอบ
ในกรณีที่ทนายความของนายบรรณพจน์ อาจยื่นฎีกา อัยการต้องดูรายละเอียดอีกครั้งว่า สมควรจะแก้ฎีกาหรือไม่เพราะบางคดี บางครั้งอัยการไม่ได้ยื่นแก้ฎีกาถ้าเห็นว่าไม่เป็นสาระ ทั้งยืนยันว่า ไม่มีการวิ่งเต้นให้พิจารณาไม่ยื่นฎีกาคดีนี้อย่างแน่นอน