นายวิบูล จันทรดิลกรัตน์ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า ผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วมในปีนี้ คาดว่าจะส่งผลกระทบในวงกว้างทั้งกับผู้บริโภคที่ปลูกสร้างบ้าน และตัวบริษัทรับสร้างบ้านเอง โดยเฉพาะปัญหาในเรื่องของความล่าช้าในด้านงานก่อสร้างที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากตอนนี้เกิดปัญหาเรื่องการขาดแคลนวัสดุก่อสร้าง รวมถึงเรื่องของแรงงานก่อสร้างที่ส่วนใหญ่ต้องกลับไปยังภูมิลำเนาเดิมหลังเกิดปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่สำคัญหลายจังหวัด
“ตอนนี้ทางสมาคมฯ แนะนำให้สมาชิกสมาคมฯ เร่งเจรจากับผู้บริโภคที่เซ็นสัญญาปลูกสร้างบ้านให้มีการขยายระยะเวลาอายุสัญญาการก่อสร้างบ้านออกไปก่อน อย่างน้อยก็ประมาณ 45 วัน ขึ้นอยู่กับขนาดของแต่ละหลัง เพราะในสถานการณ์นี้การก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามสัญญาน่าจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก เพราะนอกจาก จะเจอปัญหาเรื่องวัสดุ และ แรงงานขาดแคลนแล้ว บางไซต์งานยังเจอปัญหาน้ำท่วมเข้าไปอีกด้วย” นายวิบูล กล่าว
นายวิบูล กล่าวต่อไปว่า ในเบื้องต้นตอนนี้ทางสมาคมฯ แนะนำให้สมาชิกเร่งเจรจากับกลุ่มผู้บริโภคที่ปลูกสร้างบ้านถึงระยะเวลาในการก่อสร้างก่อน โดยเฉพาะการขอขยายระยะเวลาในการปลูกสร้าง ซึ่งคิดว่าในส่วนของผู้บริโภคเองก็น่าที่จะเข้าใจปัญหาดังกล่าว ขณะที่ปัญหาหลังจากนี้ที่จะตามมาจะเป็นเรื่องของราคาวัสดุก่อสร้าง ที่จะทยอยปรับตัวสูงขึ้นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะวัสดุหลัก ๆ ที่ใช้ในการก่อสร้างทั้ง อิฐ หิน ทราย ฯลฯ ซึ่งขณะนี้ ก็เริ่มที่จะมีการปรับราคาขึ้นแล้วเช่นกัน โดยในส่วนของสมาคมฯ เองก็อยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ในเรื่องของราคาวัสดุก่อสร้างว่าจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นขนาดไหน และจะส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง เพื่อหามาตรการณ์ในการแก้ปัญหา โดยในเบื้องต้นก็อาจจะมีการเจรจากับกลุ่มผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างหลัก ๆเพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาร่วมกันโดยเฉพาะการตรึงราคาวัสดุก่อสร้างไม่ให้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเกินไปจะได้ไม่เกิดผลกระทบกับผู้บริโภคมากนัก