กู้ภัยอินโดฯยุติกู้ศพผู้โดยสาร-ลูกเรือไทรกานา แอร์ เหตุสภาพอากาศเลวร้าย

สภาพอากาศที่เลวร้ายทำให้หน่วยกู้ภัยอินโดนีเซียยุติการกู้ศพผู้โดยสารและลูกเรือของสายการบินไทรกานา แอร์ หลังเครื่องบินตกในพื้นที่ห่างไกลใน จ.ปาปัว

สภาพอากาศที่เลวร้ายเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่กู้ภัยอินโดนีเซียที่เข้าไปในจุดที่พบซากเครื่องบินโดยสารสายการบินไทรกานา แอร์ ที่ประสบอุบัติเหตุตกในพื้นที่ห่างไกลของ จ.ปาปัว ทำให้ทีมกู้ภัยต้องยกเลิกการกู้ศพผู้โดยสารและลูกเรือออกจากซากเครื่องบิน เมื่อวานนี้ (18 ส.ค.2558) เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย ขณะที่ทีมประสานงานในพื้นที่แจ้งกลับมายังสำนักงานค้นหาและกู้ภัยว่า การเคลื่อนย้ายศพออกมาทางภาคพื้นดินอาจต้องใช้เวลานาน ดังนั้นสำนักงานค้นหาและกู้ภัยจึงตัดสินใจใช้เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงศพออกมาในเช้าวันนี้ (19 ส.ค.2558)

เครื่องบินโดยสารของสายการบินไทรกานา แอร์ ที่ประสบอุบัติเหตุเป็นรุ่นเอทีอาร์ 42-300 โดยเครื่องบินขาดการติดต่อกับศูนย์ควบคุมการบินเมื่อวันที่ 16 ส.ค.2558 ท่ามกลางสภาพอากาศที่เลวร้าย ก่อนได้รับการยืนยันว่าเครื่องบินตกลงในแถบพื้นที่ภูเขาห่างไกล ขณะเดินทางได้เพียงครึ่งทางจากสนามบินเซนทานี (Sentani) ในเมืองจายาปุระ มุ่งหน้าสู่เมืองออคซิบิล (Oksibil) ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางใต้ ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่อง 54 คนเสียชีวิตทั้งหมด โดยขณะนี้พบกล่องดำหรือกล่องบันทึกข้อมูลการบินของเครื่องบินแล้ว ซึ่งจะเป็นหลักฐานสำคัญในการสืบหาสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตก

ทั้งนี้ สายการบินไทรกานา แอร์ เป็นสายการบินขนาดเล็กของอินโดนีเซียและมีประวัติเคยเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง 14 ครั้ง นับตั้งแต่เริ่มให้บริการเมื่อปี พ.ศ.2534 โดยอินโดนีเซียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประวัติเกี่ยวกับความปลอดภัยด้านการบินและเมื่อปี 2557 มีอุบัติเหตุร้ายแรงทางอากาศเกิดขึ้น 2 ครั้ง รวมทั้งอุบัติเหตุที่เกิดกับเครื่องบินสายการแอร์เอเชียที่ตกในทะเลชวา จนทำให้คนบนเครื่อง 162 คนเสียชีวิตทั้งหมด