โฆษก ตร.ยันชายต่างชาติที่ถูกจับกุม จ.สระแก้ว 
พล.ต.ท.ประวุฒิให้ข้อมูลว่า ทหารและตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเหตุวางระเบิดราชประสงค์ที่มีลักษณะคล้ายภาพสเก็ตช์โดยจับกุมได้ขณะกำลังผ่านแดนเมื่อเวลาก่อน 12.00 น. วันนี้ (1 ก.ย.) ที่ ต.บ้านป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยจับกุมในข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมาย ถูกทหารจับได้ระหว่างที่กำลังหลบหนีออกนอกประเทศบริเวณพรมแดนทางธรรมชาติ โดยหลบหนีเพียงลำพัง ทหารจึงได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวควบคุมตัวบุคคลดังกล่าวไว้ ซึ่งในช่วงเย็นวันนี้ได้นำตัวผู้ต้องสงสัยมาถึงกรุงเทพฯ แล้ว มีรายงานว่าเขาถูกควบคุมตัวไปสอบสวนที่มณฑลทหารบกที่ 11 เขตดุสิต
"หลักฐานเบื้องต้นยืนยันว่าเป็นคนร้ายสำคัญกลุ่มเดียวกับผู้ต้องหาที่จับได้ 1 คนก่อนหน้านี้และมีความเชื่อมโยงกับผู้พักอาศัยที่หอพักย่านหนองจอก-มีนบุรี" พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวและให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผู้ต้องสงสัยพูดภาษาอังกฤษได้เล็กน้อยและเจ้าหน้าที่ไม่พบพาสปอร์ตของบุคคลที่มีการแชร์ในโซเชียลมีเดียก่อนหน้านี้
ผู้ต้องหารายนี้เป็นบุคคลสำคัญที่อยู่ในกลุ่มที่นำระเบิดไปวางที่แยกราชประสงค์และที่ท่าน้ำสาทร แต่ยังไม่ยืนยันว่าทำหน้าที่อะไร โดยต้องรอพยานบุคคลมาชี้ตัวผู้ต้องสงสัยเพื่อนยืนยัน รวมทั้งตรวจสอบดีเอ็นเอ เพื่อหาความเชื่อมโยมกับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ตำรวจเก็บได้ไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ พล.ต.ท.ประวุฒิระบุ
นอกจากนั้น ศาลจังหวัดมีนบุรียังอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีก 3 คน ในข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่อนุญาตไว้ในครอบครอง
พล.ต.ท.ประวุฒิเปิดเผยด้วยว่า ล่าสุดศาลจังหวัดมีนบุรีได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดีระเบิดราชประสงค์เพิ่มอีก 3 คน ในข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ได้แก่
1.นายอาลิ โจลัน ไม่ทราบสัญชาติ
2.นายอาเหม็ด โบซองเลน ไม่ทราบสัญชาติ
3.ชายชาวตุรกีไม่ทราบชื่อ
ทั้งนี้ในวันที่ 7 ก.ย.เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจะประชุมเรื่องมาตรการดูแลการเข้าเมือง-แหล่งผ่านของผู้ต้องสงสัย
ต่อมาเวลา 18.00 น. พ.อ.วินธัย สุวารี ศูนย์ติดตามสถานการณ์คณะรักษาความสงบเรียบร้อย ได้รายงานความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนเหตุระเบิดราชประสงค์และการจับกุมผู้ต้องสงสัยที่ จ.สระแก้ว ผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ โดยระบุว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเร่งรัดดำเนินการในทุกด้าน โดยเฉพาะการติดตามตัวผู้ต้องหาและขยายผลจากพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ รวมทั้งการให้กองกำลังป้องกันชายแดนเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลที่ผ่านเข้าออกตามแนวชายแดนเพื่อนำไปสู่การติดตามจับกุมผู้ต้องหาและผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทรต่อไป
"สำหรับความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (1 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. กำลังของกองกำลังบูรพาตรวจพบและจับกุมบุคคลที่มีลักษณะคล้ายผู้ต้องหาชายสวมเสื้อสีเหลืองในคดีเหตุการณ์ราชประสงค์ตามหมายจับของศาล ได้ที่บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชาบ้านป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งปัจจุบันได้ส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนนำตัวไปดำเนินการตามกระบวนการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมแล้ว นอกจากนั้น วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังมีการขออนุมัติให้ศาลออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 3 คน โดยขณะนี้มีผู้ต้องหาถูกออกหมายจับรวมทั้งสิ้น 7 คน ทั้งนี้การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจจำเป็นต้องมีขั้นตอนและมีความรอบคอบในการดำเนินการ จึงขอให้พี่น้องประชาชนเข้าใจและให้เวลากับเจ้าหน้าที่ซึ่งหากมีความคืบหน้าประการใดจะแจ้งให้ทราบต่อไป" โฆษก คสช.กล่าว