ทุ่ม 700 ล.เสริมทราย 35 ม.สร้างหัวหาด-เขื่อน แก้กัดเซาะชายฝั่งหาดจอมเทียน เมืองพัทยา
วันนี้ ( 24 ก.ย. 2558) กรมเจ้าท่า เมืองพัทยา ร่วมกับสถานอบรมคริสเตียนแบ๊บติส พัทยา จ.ชลบุรี จัดประชุมรับฟังความคิดเห็น การประชาสัมพันธ์โครงการศึกษาวางแผนแม่บท และสำรวจออกแบบเพื่อเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียน จ.ชลบุรี ครั้งที่ 2 วานนี้ (23 ก.ย. 2558) โดยมีตัวแทนจาก อ.บางละมุง และเทศบาลเมืองพัทยา พร้อมด้วยประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟัง
นายวรรณชัย บุตรทองดี ผู้อำนวยการสำนักวิศวกรรม ผู้แทนกรมเจ้าท่า เผยว่า ทีมศึกษาออกแบบแนวทางป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งหาดจอมเทียนไว้ 6 ทาง ซึ่งที่ประชุมเลือกวิธีการเสริมทรายออกไป 35 เมตร พร้อมกับการก่อสร้างหัวหาดร่วมกับเขื่อนกันคลื่นและสวนสาธารณะ ซึ่งใช้งบประมาณรวม 700 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 2 ปี
ขณะที่ ศ.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล หัวหน้าโครงการศึกษาวางแผนแม่บทและสำรวจออกแบบเพื่อเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียน กล่าวว่า พื้นที่ชายหาดจอมเทียน 14 กม.ได้รับผลกระทบจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ช่วงเดือน พ.ค.-ส.ค.ของทุกปี นอกจากนี้ ด้านกายภาพปริมาณมวลทรายบริสุทธิ์ของหาดจอมเทียนยังเคลื่อนที่ขึ้นเหนือปีละ 80,000 ลบ.ม. และเมื่อไม่มีตะกอนทรายชายฝั่งทิศใต้ไหลเข้ามาเพียงพอ จึงทำให้เกิดการขาดสมดุลทรายบนชายฝั่ง ซึ่งหากปล่อยไว้เพียง 25 ปี จะทำให้ชายหาดหายไปส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการศึกษาข้อมูลความเปลี่ยนแปลงชายฝั่งบริเวณพื้นที่เมืองพัทยา ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งพบว่า การพัฒนาระบบสาธารณูปโภค เช่น ถนนเลียบชายฝั่งสาธารณะ พร้อมกำแพงคอนกรีตป้องกันตลิ่ง โครงสร้างป้องกันการกัดเซาะเป็นกำแพงโครงสร้างเหล็ก (คสล.) ทำให้เกิดคลื่นเข้าปะทะกับกำแพงจนเกิดการสะท้อนกลับอย่างรุนแรง ประกอบกับขาดความรู้ความเข้าใจในการป้องกันปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งอย่างถูกต้อง ทำให้ อัตราการกัดเซาะของหาดในเมืองพัทยามีระดับรุนแรงปานกลาง จากการกัดเซาะมากกว่า 2 ม.ต่อปี