สรรพากรเสนอปรับโครงสร้างภาษีบุคคลธรรมดา

กรมสรรพากรเตรียมเสนอแนวปรับลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ให้กระทรวงการคลังพิจารณาตัดสินใจเลือก เพื่อให้ผู้เสียภาษีมีภาระน้อยลง โดยทางกรมฯ จะเสนอเป็นหลายแนวทาง ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียต่างกัน คาดว่าจะได้ข้อสรุปเดือน ม.ค.นี้

การปรับโครงสร้างภาษีบุคคลธรรมดาทั้งระบบ และการปรับปรุงค่าลดหย่อนภาษี มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและจัดเก็บภาษีได้ทั่วถึง โดยจะมุ่งเน้นกระจายภาระภาษีให้แก่ผู้เสียภาษีในทุกระดับ ซึ่งขณะนี้กรมสรรพากรอยู่ระหว่างให้เจ้าหน้าที่ศึกษารายละเอียด จากนั้นจะให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณา คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเดือน ม.ค.นี้ เพื่อให้ทันในปีภาษี 2555

แนวทางที่จะเสนอมีหลายรูปแบบ ซึ่งมีข้อดีข้อเสียต่างกันไป เช่น การปรับลดเพดานเสียภาษีสูงสุด จากเดิมร้อยละ 37 เหลือร้อยละ 35 และปรับขั้นการเสียภาษีให้ถี่ขึ้น จากเดิมที่เก็บร้อยละ 10, 20, 30 และ 37 มาเป็นร้อยละ 10, 15, 20, 25 และสูงสุดที่ร้อยละ 35 ซึ่งวิธีการนี้จะทำให้ผู้เสียภาษีมีภาระน้อยลง และจะไม่ทำให้การเสียภาษีก้าวกระโดด เช่น ปัจจุบันผู้มีเงินได้ 500,000 บาท เสียภาษีอัตราร้อยละ 10 แต่พอมีเงินได้ 500,001 บาท เสียอัตราร้อยละ 20

ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างภาษีอาจทำให้รายได้จากภาษีบุคคลธรรมดาของกรมสรรพากรลดน้อยลง แต่จะทำให้การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้มากขึ้น เพราะประชาชนจะมีการใช้จ่ายบริโภคมากขึ้น ซึ่งเมื่อฐานภาษีขยายขึ้นก็จะทำให้เก็บรายได้ในระยะยาวเพิ่มขึ้น แต่ในระยะสั้น อาจจะไม่สามารถชดเชยรายได้ที่หายไปได้ในทันที