บุตรสาวอดีต รมช.ศธ.เร่งตำรวจตามตัวผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์ หลังคดีไม่คืบ
ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นผู้ชายสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวลายทางฟ้า กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงินและสวมหมวกสีน้ำเงิน เป็นเบาะแสเดียวที่ตำรวจมีอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากเชื่อว่าเขาเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายและชิงทรัพย์ น.ส.สฤตาพร สันติเมทนีดล บุตรสาวของนายสฤต สันติเมทนีดล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ผู้เสียหายให้ข้อมูลการกับตำรวจว่า ได้กดเงินที่ตู้เอทีเอ็มบริเวณทางเข้า-ออกของอาคารชาญอิสสระทาวเวอร์ 1 ย่านบางรัก เพื่อไปซื้อยาที่ร้านขายยาริมถนนพระราม 4 ขากลับมาถึงจุดทางเชื่อมระหว่างโรงแรมที่พักกับอาคารแห่งนี้ มีผู้ชายคนหนึ่งตรงเข้ามาทำร้ายร่างกายจนสลบและรู้สึกตัวอีกทีที่โรงพยาบาล
สอดคล้องกับภาพจากกล้องวงจรปิด ตำรวจพบผู้ต้องสงสัยเดินวนเวียนประมาณ 15 นาทีที่บริเวณอาคารชาญอิสสระทาวเวอร์ 1 และออกไปทางโรงแรมซึ่งอยู่ใกล้เคียง จากนั้นข้ามถนนพระราม 4 ไปที่ลานจอดรถโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์และย้อนกลับมาที่จุดเกิดเหตุ ลงมือชิงทรัพย์ผู้เสียหายก่อนขึ้นรถแท็กซี่หลบหนี
ตำรวจติดตามจนพบรถแท็กซี่ที่รับผู้ต้องสงสัย โดยพยานกล่าวว่า รับผู้ต้องสงสัยไปส่งที่หน้าห้างเซนทรัลเวิลด์ ซึ่งตำรวจส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่เพื่อติดตามเบาแสะและยอมรับว่าคดีนี้เป็นคดีที่อุกฉกรรจ์ เนื่องจากช่วงก่อเหตุเป็นเวลา 16.00 น.
"ในทางลัด ทางเชื่อมและทางต่อ เหล่านี้เป็นจุดล่อแหลม เพราะไม่มีคนเดินทางตลอดเวลา โดยเฉพาะในยามค่ำคืน ถ้าเหยื่อเป็นสุภาพสตรี ผู้กระทำความผิดก็สามารถที่จะดำเนินการโดยง่าย เพราะนอกจากง่ายต่อการกระทำความผิดแล้ว ยังง่ายแก่การหลบหนีและอาจจะไม่มีประจักษ์พยาน" พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.กล่าว
คดีนี้ศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับผู้ต้องสงสัยคนนี้แล้วในข้อหา ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส และตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี โดยมีรางวัลนำจับเป็นเงิน 5,000 บาท
ทั้งนี้ คดีนี้เกิดเมื่อวันที่ 25 ก.ค.2558 จนถึงวันนี้ (4 ต.ค.2558) ผ่านมากว่า 2 เดือนแล้ว แต่คดียังไม่คืบหน้า ตำรวจมีเพียงภาพชายผู้ก่อเหตุและมีพยานเป็นคนขับรถแท็กซี่ที่ให้ปากคำเท่านั้น ขณะที่ผู้เสียหายยังคงติดใจและต้องการให้ตำรวจติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้