คราบน้ำมันกระจายตัวเข้าพื้นที่ป่าชายเลน จ.สมุทรสาคร
ชายหาดเลียบพื้นที่ป่าชายเลน บริเวณหมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 5 ต.นาโคก อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร อยู่ในสภาพถูกคราบน้ำมันสีดำเกาะเกือบตลอดชาย ซึ่งคราบน้ำมันที่พบมีลักษณะเช่นเดียวกับคราบน้ำมันที่พบบริเวณชายหาดหัวหินและชายหาดใน อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตลอดช่วง 5 วันที่ผ่านมา
ชาวบ้านกล่าวว่า ช่วงที่น้ำทะเลขึ้นทำให้เห็นคราบน้ำมันน้อยกว่าช่วงน้ำทะลงในตอนค่ำ โดยจะพบเกาะติดตามต้นไม้และสัตว์น้ำจนเป็นสีดำ สร้างความวิตกกังวลให้กับชาวบ้านที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทั้งวังกุ้ง หอยแครง หอยแมลงภู่ ปลากะพงและปู ที่มีอยู่กว่า 30 ราย จึงไม่มีใครกล้าเปิดประตูระบายน้ำ แต่ถ้าปล่อยไว้นาน ไม่มีการระบายน้ำเข้าออกจะทำให้สัตว์น้ำที่เพาะเลี้ยงไว้ตาย จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือ
ก่อนหน้านี้ทหารจากกองทัพเรือภาคที่ 1 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นใช้น้ำยาฉีดพ่นเพื่อสลายคราบน้ำมันจำนวน 20 ลิตร แต่ก็ไม่เพียงพอเนื่องจากคราบน้ำมันกินพื้นที่ยาว 3 กิโลเมตร
ส่วนบริเวณชายหาดหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำทะเลได้ตามปกติแล้ว หลังหลายหน่วยงานร่วมกันจัดเก็บคราบน้ำมันและเศษขยะที่ปนเปื้อนคราบน้ำมันได้เกือบทั้งหมด เช่นเดียวกับชายหาดตะเกียบ ชายหาดเขาเต่า จนถึงบริเวณชายหาดที่วนอุทยานปราณบุรี สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย
นายสมศักดิ์ กรีธาธร หัวหน้าวนอุทยานปราณบุรี ระบุว่า จะเฝ้าระวังสถานการณ์อีกครั้งในช่วงบ่ายวันนี้ (1 พ.ย.2558) เนื่องจากช่วงเช้าที่ผ่านมามีคลื่นลมแรงและน้ำทะเลหนุน แต่ก็ยังไม่ปรากฎคราบน้ำมันตามแนวชายหาด หากไม่มีคราบน้ำมัน คาดว่าพรุ่งนี้ (2 พ.ย.2558) จะเปิดวนอุทยานหาด วนกร อ.ปราณบุรี ให้ท่องเที่ยวตามปกติ ขณะเดียวกันได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชกว่า 30 นาย เตรียมรับมือหากมีคราบน้ำมันพัดเข้าชายฝั่งอีกระลอก