เผยเครื่องบินรัสเซียแตกเป็นเสี่ยงก่อนตก ผู้เชี่ยวชาญชี้ไอเอสไม่มีขีปนาวุธยิงเครื่องบิน
เจ้าหน้าที่สืบสวนของรัสเซียระบุว่า เครื่องบินโดยสารของรัสเซียที่ตกบนคาบสมุทรไซนายของอียิปต์แตกเป็นเสี่ยงกลางอากาศก่อนตกสู่พื้น ท่ามกลางคำกล่าวอ้างของกลุ่มไอเอสว่ายิงเครื่องบินของรัสเซียตก ด้านผู้เชี่ยวชาญระบุกลุ่มติดอาวุธในพื้นที่แหลมไซนายไม่มีอาวุธรุนแรงพอจะยิงเครื่องบินกลางอากาศได้
วันนี้ (2 พ.ย.2558) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โศกนาฏกรรมเครื่องบินโดยสารรัสเซียตกบนคาบสมุทรไซนายของอียิปต์ เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา ยังเป็นปริศนา แม้ว่ากลุ่มไอเอสอ้างว่า เป็นผู้ยิงเครื่องบินตกเพื่อล้างแค้นรัสเซีย ที่เปิดการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มไอเอสในซีเรีย แต่ประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัล ซิซี ผู้นำอิยิปต์เตือนว่าอย่าเพิ่งด่วนสรุปและขอให้ทุกฝ่ายอดทนรอผลการสืบสวนที่แน่ชัด ซึ่งอาจใช้เวลานานหลายเดือน
ขณะที่นายชารีฟ อิสมาอิล นายกรัฐมนตรีอียิปต์และผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า กลุ่มไอเอสไม่น่าจะยิงเครื่องบิน ซึ่งบินอยู่ในระดับความสูงถึง 30,000 ฟุต ให้ตกได้ เนื่องจากการยิงเครื่องบินที่อยู่ในระดับความสูงดังกล่าว จะต้องใช้ขีปนาวุธและคนยิงจะต้องได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี ซึ่งกลุ่มไอเอสไม่มี นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญยังตั้งข้อสังเกตว่า คำกล่าวอ้างของกลุ่มไอเอส เป็นเพียงคำพูดลอยๆ ไม่มีหลักฐานทั้่งภาพถ่ายหรือวิดีโอมายืนยัน
นายวิคเตอร์ โซโรเชนโก หัวหน้าคณะกรรมาธิการด้านการบินของรัสเซียเปิดเผย หลังเดินทางไปตรวจสอบจุดที่พบชิ้นส่วนเครื่องบินโดยสารเช่าเหมาลำแอร์บัส เอ 321 เที่ยวบินเคจีแอล 9268 ใกล้หมู่บ้านฮาซานา บนคาบสมุทรไซนายของอียิปต์ว่าเครื่องบินแตกเป็นเสี่ยงกลางอากาศ แต่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้
นายโซโรเชนโกเปิดเผยว่า ชิ้นส่วนเครื่องบินถูกพบกระจัดกระจายในรัศมีกว้าง 20 ตารางกิโลเมตรบนคาบสมุทรไซนายและขณะนี้พบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 163 คน จากจำนวนผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 224 คน เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ค้นหาในพื้นที่พบกล่องดำของเครื่องบินแล้ว ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่จะช่วยไขปริศนาสาเหตุโศกนาฏกรรมทางอากาศในครั้งนี้
ขณะที่มีรายงานว่าเครื่องบินขาดการติดต่อกับหอบังคับการบินหลังทะยานขึ้นจากสนามบินไปแล้ว 23 นาทีและนักบินติดต่อเข้ามาเป็นครั้งสุดท้ายแจ้งว่าเกิดปัญหากับวิทยุ แต่การติดต่อสื่อสารยังเป็นปกติ
แม้คำกล่าวอ้างของกลุ่มไอเอสจะได้รับการปฏิเสธจากเจ้าหน้าที่ของอียิปต์และรัสเซีย แต่สร้างความวิตกให้กับสายการบินต่างๆ โดยสายการบินลุฟท์ฮันซา สายการบินเอมิเรตส์ และสายการบินแอร์ฟรานซ์ประกาศระงับการบินผ่านคาบสมุทรไซนายจนกว่าจะทราบสาเหตุแน่ชัดที่ทำให้เครื่องบินรัสเซียตก
เครื่องบินรัสเซียที่ตกเป็นของสายการบินโคกาลีมาเวียของรัสเซีย ซึ่งดำเนินการภายใต้ชื่อเมโทรเจ็ต ขณะเกิดเหตุกำลังเดินทางจากเมืองชาร์ม เอล ชีค เมืองตากอากาศในทะเลแดงมุ่งหน้าสู่นครเซนท์ปีเตอร์สเบิร์ก พร้อมด้วยผู้โดยสาร เป็นนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย 214 คน ชาวยูเครน 3 คน และลูกเรืออีก 7 คน