รับมือค่าครองชีพสูงหลังลอยตัว NGV-LPG
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ยืนยันว่า การปรับขึ้นราคาก๊าซธรรมชาติ (NGV) เป็นไปตามกรอบการกำกับดูแลของคณะกรรมการพลังงานเชื้อเพลิง หรือเรคกูเรเตอร์ เพื่อให้การบริหารงบประมาณ การใช้เชื้อเพลิง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจขับเคลื่อนไปอย่างเหมาะสม ทำให้การปรับขึ้นราคาเชื้อเพลิงดังกล่าวเกิดประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจทั้งหมด ไม่เฉพาะเจาะจงเพียงผลกำไรของบริษัท แม้ถูกตั้งข้อสังเกตว่า บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เป็นกิจการผูกขาดและอาจได้รับประโยชน์จากการลอยตัวราคาก๊าซชนิดดังกล่าว
ผู้บริหารบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวอีกว่า ประชาชนและผู้ใช้รถยนต์ประเภทนี้ควรปรับตัว หลังบริษัทตรึงราคาก๊าซ NGV ที่กิโลกรัมละ 8.50 บาท ทั้งที่ต้นทุนก๊าซและค่าบริหารจัดการมากกว่ากิโลกรัมละ 15 บาท
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ยอมรับว่า การลอยตัวราคาก๊าซหุงต้ม และ NGV ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าและบริการ โดยข้อมูลเบื้องต้นพบว่า จะกระทบค่าครองชีพ ภาคครัวเรือน ร้อยละ 0.02 และค่าบริการรถสาธารณะร้อยละ 0.03
ส่วนสินค้าที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการลอยตัวราคาก๊าซอย่างน้อย 10 รายการ เช่น ปูนซีเมนต์พอร์ตแลนด์, ท่อวีพีซี, พัดลม ขนาด 12 นิ้ว และน้ำดื่มบรรจุขวด ขนาด 500 ซีซี