คณะผู้สังเกตุการณ์ท้องถิ่นพบความผิดปกติบัญชีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเมียนมา

คณะผู้สังเกตุการณ์ท้องถิ่นพบความผิดปกติหลายอย่างในช่วงโค้งสุดท้ายเลือกตั้งเมียนมา ออกแถลงการณ์ยืนยันว่ารัฐบาลและกองทัพจะยอมรับผลการเลือกตั้งเพื่อรักษาเสถียรภาพของประเทศ ท่ามกลางความกังวลว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้จะเสรีและยุติธรรมจริงหรือไม่ เนื่องจากพบความผิดปกติหลายอย่าง โดยเฉพาะรายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนที่พบปัญหาหลายอย่าง

วันนี้(7 พ.ย.2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่ม Mandalay Women Politics Group ซึ่งเป็นผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งท้องถิ่น ระบุว่า จากการตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในเมืองมัณฑะเลย์ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา พบความผิดปกติหลายอย่าง โดยสิ่งที่พบมากที่สุดคือรายชื่อมีจำนวนเกินความเป็นจริง

ฉ่วย ซิน โซ วิน จาก Mandalay Women Politics Group ระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่าหลายเขตเลือกตั้งมีรายชื่อมากกว่าจำนวนประชากรที่อาศัยอยู่จริงประมาณร้อยละ 20 ถึงร้อยละ 60 รายชื่อที่เกินมามีทั้งชื่อของคนที่เสียชีวิตไปแล้ว ชื่อของคนที่ไม่ได้อยู่ในทะเบียนบ้าน รวมถึงรายชื่อซ้ำซ้อน ในขณะเดียวกันก็มีหลายคนที่เป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง แต่กลับไม่อยู่ในรายชื่อและสิ่งที่น่าสังเกตคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ของเมียนมา ได้แก้ไขและปรับปรุงรายชื่อตามที่ประชาชนแจ้งมาแล้วถึง 3 รอบแต่ก็ยังพบความผิดปกติทุกครั้ง และสัดส่วนของความผิดปกติก็มีมากถึงร้อยละ 50 ของจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง

นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่า การเลือกตั้งก่อนหน้านี้เมื่อปี 2555 การลงคะแนนจะใช้วิธีกากบาทในบัตรเลือกตั้งแต่ครั้งนี้ กกต.กลับใช้วิธีสแตมป์ตรายางแทน ซึ่งวิธีนี้ยากกว่าและอาจทำให้มีบัตรเสียจำนวนมาก ซึ่งอาจจะกระทบต่อผลการเลือกตั้ง

ขณะที่หลายฝ่ายกังวลว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้อาจจะไม่เสรีและไม่เป็นธรรม ทำให้เมื่อคืนนี้(6 พ.ย.) พลเอก เต็ง เส่ง ประธานาธิบดีของเมียนมา ออกแถลงการณ์ยืนยันว่ารัฐบาลและกองทัพจะยอมรับผลการเลือกตั้ง เพื่อรักษาเสถียรภาพของประเทศ นี่ถือเป็นการเดินทางอันยาวไกลของเมียนมาในการสร้างประเทศขึ้นมาใหม่บนรากฐานแห่งประชาธิปไตยและหากการเลือกตั้งครั้งนี้ประสบความสำเร็จ การเปลี่ยนผ่านและการพัฒนาประเทศจะดำเนินต่อไปอย่างราบรื่นพร้อมขอให้พรรคการเมืองทุกพรรคยอมรับผลการเลือกตั้งด้วยเช่นกัน

สำหรับการเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้(8 พ.ย.) รัฐบาลได้ส่งตำรวจประมาณ 40,000 นาย ประจำการตามหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ ทามกลางกระแสข่าวว่าอาจจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นหลังทราบผลการเลือกตั้ง โดยฝ่ายที่ไม่พอใจอาจจะก่อความรุนแรงได้