ค่ายใหญ่ “AIS-TRUE” กวาด 4G ครอง 18 ปี ต้องจ่าย 50% ใน 90 วันจึงจะได้ใบอนุญาต
วันนี้ (12 พ.ย.) เวลา 20.30 น. พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ประธาน กสทช.) กล่าวว่า การประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz ในวันนี้ จบลงอย่างสวยงาม การประมูลมีการแข่งขันราคากันดุเดือดสองวันต่อเนื่อง สะท้อนความต้องการในการใช้คลื่นความถี่ของผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมในประเทศไทย ซึ่งนับเป็นนิมิตรหมายที่ดี ที่ประเทศจะก้าวเข้าสู่เทคโนโลยีโทรคมนาคมที่ทันสมัย ประชาชนได้ประโยชน์จากการใช้บริการที่มีคุณภาพและราคายุติธรรม สร้างโครงข่ายการสื่อสารเพื่อเป็นพื้นฐานของเศรษฐกิจดิจิตอลตามนโยบายของรัฐบาล และยังสามารถนำรายได้จากการประมูลส่งเป็นรายได้แผ่นดินต่อไป
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รองประธาน กสทช.) ในฐานะประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม (ประธาน กทค.) กล่าวว่า ผลการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz ตามประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 1800 MHz ในวันที่ 11 พ.ย. 2558 โดยการประมูลได้เริ่มต้นเมื่อเวลา 10.00 น. และได้สิ้นสุดลงเวลา 19.05 น. ในวันที่ 12 พ.ย. 2558 ซึ่งใช้รอบในการประมูลจำนวน 86 รอบ และมีราคาประมูลรวมของคลื่นความถี่ 2 ชุด เท่ากับ 80,778 ล้านบาท โดยมีผู้ชนะการประมูลในแต่ละชุดคลื่นความถี่ ดังนี้
1.ชุดที่หนึ่ง คลื่นความถี่ 1710-1725 MHz คู่กับ 1805-1820 MHz ผู้ชนะการประมูล คือ บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ราคาสุดท้ายที่เสนอ 39,792 ล้านบาท และ
2.ชุดที่สอง คลื่นความถี่ 1725-1740 MHz คู่กับ 1820-1835 MHz ผู้ชนะการประมูล คือ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ราคาสุดท้ายที่เสนอ 40,986 ล้านบาท
สำหรับผู้ไม่ชนะการประมูลประกอบด้วย บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ชุดคลื่นความถี่สุดท้ายที่เสนอ คือ ชุดที่ 1 ราคาสุดท้ายที่เสนอ 38,996 ล้านบาท และบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด ชุดคลื่นความถี่สุดท้ายที่เสนอ คือ ชุดที่ 1 ราคาสุดท้ายที่เสนอ 17,504 ล้านบาท
คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมจึงขอประกาศผลการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz และให้การประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz ในครั้งนี้สิ้นสุดลง
ด้าน นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า สำหรับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมบนคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz ทั้งสองใบอนุญาตมีอายุ 18 ปี โดยขั้นตอนจากนี้ กทค. จะมีการประชุมเพื่อรับรองผลการประมูลอย่างเป็นทางการ และสำนักงาน กสทช. จะประกาศผลการประมูลอย่างเป็นทางการภายใน 7 วัน จากนั้นกสทช. จะออกใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz และใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สาม ให้แก่ผู้เข้าร่วมการประมูล ภายหลังจากผู้เข้าร่วมการประมูลได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการดำเนินการก่อนรับใบอนุญาตอย่างครบถ้วน ถูกต้องภายใน 90 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งผลการประมูล
สำหรับการประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz กสทช. ได้กำหนดมาตรการเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคไว้ในเงื่อนไขท้ายใบอนุญาต โดยกำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาต ต้องขยายโครงข่ายให้ครอบคลุมประชากร 40 % ภายใน 4 ปี และต้องครอบคลุมประชากร 50 % ภายใน 8 ปี ในส่วนของอัตราค่าบริการ 4 G จะต้องมีอัตราค่าบริการถูกกว่าอัตราค่าบริการ 3 G บนคลื่นความถี่ 2.1 GHz ที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน
นอกจากนั้นผู้รับใบอนุญาตจะต้องจัดให้มีแพ็คเกจราคาประหยัดสำหรับผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส และผู้มีรายได้น้อยคือ มีรายได้ต่อเดือนไม่เกิน 10,000 บาท โดยผู้รับใบอนุญาตจะต้องส่งแผนต่อ กทค. ก่อนเริ่มให้บริการ และต้องดำเนินการตามแผนภายใน 1 ปี นับจากวันที่เริ่มให้บริการ
“การประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz ในครั้งนี้ ดำเนินการด้วยความบริสุทธิ์ โปร่งใส และยุติธรรม โดยยึดผลประโยชน์ของประชาชนและรัฐเป็นที่ตั้ง รวมทั้งสร้างความสมดุลบนการแข่งขันเสรีอย่างเป็นธรรมให้เกิดในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม” นายฐากรกล่าว