ฟุตบอลกระชับมิตรอังกฤษ-ฝรั่งเศส นักเตะยอมรับสภาพจิตใจยังไม่พร้อมหลังโศกนาฏกรรมในปารีส
เดอะไทมส์รายงานว่า นักเตะทีมชาติฝรั่งเศสหลายคนต้องการให้ยกเลิกเกมอุ่นเครื่องกับทีมชาติอังกฤษ ที่สนามเวมบลีย์ ซึ่งสื่อจากอังกฤษอ้างว่าสภาพจิตใจของพวกเขายังพร้อมที่จะลงแข่งขัน หลังจากเพิ่งผ่านเหตุการณ์สะเทือนขวัญมาได้เพียง 4 วัน
วันที่ 13 พ.ย.2558 ขณะที่นักเตะทีมชาติฝรั่งเศสลงแข่งขันนัดกระชับมิตรกับทีมชาติเยอรมนีที่สนามสตาด เดอ ฟรองซ์ นอกกรุงปารีส ได้เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายขึ้นทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ และการแข่งขันต้องยุติลงกระทันหัน นักฟุตบอล แฟนบอลกว่า 8 หมื่นคน รวมทั้งประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ของฝรั่งเศสที่เข้าไปชมการแข่งขันในสนามด้วยต้องถูกอพยพออกจากสนามอย่างเร่งด่วน
นายโนแอล เดอ กราต ประธานสหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศสตัดสินใจไม่ยกเลิกการแข่งขันนัดกระชับมิตรระหว่างฝรั่งเศสและอังกฤษในวันที่ 17 พ.ย.นี้ ซึ่งสร้างความแปลกใจให้กับสมาคมฟุตบอลอังกฤษ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อการแข่งขันจะจัดขึ้นตามกำหนดเดิม นักเตะทีมชาติอังกฤษรวมถึงแฟนบอลก็พร้อมให้กำลังใจฝรั่งเศสด้วยการเตรียมร้องเพลงชาติฝรั่งเศสก่อนการแข่งขัน
ส่วนรอย ฮอดจ์สัน โค้ชทีมชาติอังกฤษ ยอมรับว่าเขาไม่เคยคุมทีมในสถานการณ์แบบนี้มาก่อน และมั่นใจว่านัดนี้จะแสดงให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ด้านเวย์น รูนีย์ กัปตันทีมอังกฤษจะเป็นตัวแทนแสดงความเสียใจต่อประเทศฝรั่งเศสที่ต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ และยอมรับว่าเป็นเรื่องยากสำหรับนักเตะฝรั่งเศสที่ต้องลงเล่นนัดนี้ แต่มั่นใจว่าพวกเขาจะพยายามทำให้ชาวฝรั่งเศสภาคภูมิใจ
ส่วนนักเตะทีมชาติฝรั่งเศสเดินทางถึงอังกฤษและลงสนามฝึกซ้อมแล้วโดย ดิดิเยร์ เดส์ชองป์ โค้ชของฝรั่งเศส บอกว่ากีฬาเป็นเหมือนตัวแทนของหลายสิ่งหลายอย่าง เพราะทุกชาติทุกศาสนาให้การต้อนรับกีฬา และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนได้เรียนรู้ถึงคุณค่าของความสามัคคี
ขณะเดียวกันสมาคมสื่อมวลชนของอังกฤษได้รับการยืนยันจาก พระราชวังเคนซิงตัน ว่า เจ้าชายวิลเลี่ยมส์ จะเสด็จไปทอดพระเนตรชมเกมนัดนี้ด้วย เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับชาวฝรั่งเศสด้วย
ช่วงกลางคืนวันที่ 13 พ.ย.2558 ชายติดอาวุธอย่างน้อย 7 คนบุกเข้าไปในสถานที่ต่างๆ 6 แห่งในกรุงปารีสและสนามสตาด เดอ ฟร็องซ์ ซึ่งอยู่นอกกรุงปารีสทางทิศเหนือ พวกเขากราดยิงและจุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตาย ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 129 คน บาดเจ็บกว่า 350 คน ซึ่งต่อมากลุ่มไอเอสได้ออกมาอ้างว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุดังกล่าว