ชาวบ้านศรีสะเกษวอนเปิดจุดผ่อนปรนทางขึ้นชมปราสาทพระวิหารฝั่งไทย หวังกระตุ้นค้าขายกลับมาคึกคัก
ทัศนียภาพบนจุดชมวิวผามออีแดงอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ มองเห็นพรมแดนระหว่างไทยและกัมพูชา รวมถึงตัวปราสาทพระวิหาร ถือเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาที่นี้ แม้จะไม่สามารถขึ้นไปชมความงดงามของตัวปราสาทพระวิหาร หลังประตูทางขึ้นในฝั่งไทยถูกปิดลงจากข้อพิพาทเรื่องเขตแดนนานกว่า 5 ปี การชมปราสาทพระวิหารของนักท่องเที่ยวจะสามารถมองผ่านกล้องส่องทางไกลบนจุดชมวิวผามออีแดงเท่านั้น แต่หลังจากกัมพูชาอนุญาตให้คนไทยขึ้นไปเที่ยวชมปราสาทพระวิหารได้ แต่ต้องขึ้นทางฝั่งกัมพูชา นักท่องเที่ยวมองว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ชาวไทยจะสามารถขึ้นไปชมความงดงามของปราสาทพระวิหาร
แม้กัมพูชาจะอนุญาตให้คนไทยขึ้นไปเที่ยวชมปราสาทพระวิหารได้ แต่แม่ค้าที่จำหน่ายสินค้าบริเวณผามออีแดงมองว่าไม่ส่งผลต่อการค้าขายหรือเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวบริเวณผามออีแดง ซึ่งคนในพื้นที่อยากให้มีการผลักดันให้มีเปิดประตูทางขึ้นปราสาทพระวิหารในฝั่งไทยและเปิดจุดผ่อนปรนพื่อให้การค้าการท่องเที่ยวชายแดนบริเวณเขาพระวิหารกลับมาคึกคัก
น.ส.เสาวลักษณ์ คอกศรี ชาวบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่าการเปิดทางฝั่งกัมพูชาอาจส่งผลกระทบคต่อเศรษฐกิจการค้าขายของแม่ค้าฝั่งไทยที่ไม่มีโอกาสจะมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งแต่เดิมจุดนี้ที่หมู่บ้านภูมิซรอลนั้นเคยเป็นจุดค้าชายหลัก
ความคาดหวังของคนในพื้นที่ซึ่งต้องการให้เปิดประตูพระวิหารในฝั่งไทยยังไม่มีความชัดเจน แต่นายสุรพล ตั้งคณสกุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวศรีสะเกษมองว่ากรณีกัมพูชาอนุญาตให้คนไทยขึ้นไปเที่ยวชมปราสาทพระวิหาร ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่ไทยและกัมพูชาจะพัฒนาการท่องเที่ยวรวมกัน โดยในอนาคตจะส่งเสริมเส้นทางการท่องเที่ยวด้านอารยธรรมเชื่อมโยงระหว่างประเทศ
การพัฒนาด้านระบบขนส่ง เช่น การก่อสร้างถนนเชื่อมไปยังอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร รวมถึงการอนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปพักค้างแรมบนเนินนับดาว ผามออีแดงของกองกำลังสุรนารี คือการเตรียมพร้อมของหน่วยงานในพื้นที่เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวชายแดน ส่วนประเด็นการเปิดประตูพระวิหารในฝั่งไทยยังอยู่ระหว่างการเจรจาของรัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งทหารในพื้นที่ยังมีการพบปะเพื่อหารือและพัฒนาความสัมพันธ์กันอย่างต่อเนื่อง