วิถีชีวิตของคนในยุคที่เสพติดการถ่ายภาพจากสมาร์ทโฟนกันตลอดเวลาทำให้มีสินค้าต่างๆ ที่ต่อยอดมาจากวัฒนธรรมเซลฟี่ ล่าสุด มีกล้องเซลฟี่แบบใหม่มาในรูปแบบของกระจกที่ไม่ต้องกดปุ่มหรือใช้ไม้เซลฟี่อีกต่อไป
กรอบแค่ในสมาร์ทโฟนดูเหมือนจะเล็กไปไม่สะใจ เลยมีสินค้าใหม่ที่คิดขึ้นเพื่อการเซลฟี่โดยเฉพาะ มาในรูปแบบของใช้ในชีวิตประจำวันนั่นคือกระจกเซลฟี่ นอกจากจะใช้เป็นกระจกปกติได้แล้ว ยังมีฟังก์ชั่นถ่ายรูปพร้อมกับอัพโหลดลงสื่อสังคมออนไลน์โดยตรงแบบไม่ต้องแตะหน้าจอ พร้อมกับมีลำโพงที่จะใช้เปิดเพลง หรืออัดเป็นวิดีโอ จึงเหมาะกับเหล่าบิวตี้บล็อกเกอร์ที่ไม่ต้องจัดอุปกรณ์จำนวนมาก เพราะมีไฟเพิ่มมาให้แล้ว และยังสามารถใช้แทนกล้องวงจรปิดที่สามารถใช้มือถือเช็คภาพจากกล้องภายในบ้านได้ตลอดเวลาด้วย แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือถ้าหากถูกแฮ็กเข้ามาได้ ก็จะย้อนมาเป็นประโยชน์ให้กับผู้ประสงค์ร้ายที่จะใช้สอดส่องภายในบ้านรวมถึงรุกล้ำความเป็นส่วนตัวได้เช่นกัน
วัฒนธรรมเซลฟี่ที่ไม่มีวี่แววว่าจะจืดจางลงไปง่ายๆ ยังทำให้เริ่มมีองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่พยายามปรับตัวตามให้ทัน อย่างชั้นเรียนศิลปะป้องกันตัวในกรุงมอสโกที่เปิดสอนวิชาที่เรียกว่า "โมโนพอดไฟท์" หรือการป้องกันตัวด้วยการใช้อุปกรณ์อย่างไม้เซลฟี่ ซึ่งเกิดจากการที่สมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นของแพงนั้นมักจะถูกหมายตาจากเหล่ามิจฉาชีพ ในเวลาท่องเที่ยวที่มักจะพกพาอาวุธป้องกันตัวในเครื่องบินไม่ได้ ไม้เซลฟี่ที่เราจะถือไปไหนมาไหนด้วยได้มากที่สุด และจะกลายเป็นกระบองเหล็กที่ทรงพลังได้ หากนำมาใช้ร่วมกับศิลปะการป้องกันตัวอย่างมวยไทยประยุกต์
ครูผู้สอนศิลปะป้องกันตัว กล่าวว่า การสู้โดยใช้ไม้เซลฟี่ท้าทายน่าดู เพราะสมาร์ทโฟนแพงๆ ของเรานั้นอยู่ที่ปลายไม้ ถ้าจะต้องต่อสู้กันขึ้นมาจริงๆ ก็มีสิทธิ์สูงที่อาจจะชนะโจร แต่มือถือพังแทน