นายกฯ ชวนคนไทยถวายพระพร
ในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ประจำคืนวันศุกร์ที่ 4 ธ.ค.2558 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ได้เชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่าในทุกประเทศทั่วโลกร่วมถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 88 พรรษาในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ พร้อมเชิญชวนตั้งปณิธานความดี ทำเรื่องดีที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคม
ทั้งนี้รัฐบาลและทุกภาคส่วนได้จัดงาน “5 ธันวามหาราช” เฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษาของในหลวงทั่วประเทศไทย ระหว่างวันที่ 1-7 ธันวาคมนี้ ส่วนกลางที่กรุงเทพมหานครจัดที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ถนนราชดำเนิน ส่วนในภูมิภาคอีก 76 จังหวัด จัดที่ศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศ โดยกิจกรรมทางศาสนาเพื่อเฉลิมพระเกียรติ ประกอบไปด้วยการปฏิบัติธรรมและเจริญพระพุทธมนต์ข้ามคืนเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พร้อมทั้งพิธีทำบุญตักบาตร และการแสดงศิลปวัฒนธรรม พิธีถวายพระพรชัยมงคล 5 ศาสนา ทั้งในส่วนกลางที่ท้องสนามหลวงและในภูมิภาค รวมทั้งพิธีทำบุญตักบาตรสำหรับในต่างประเทศที่ สถานเอกอัครราชทูต นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงกิจกรรม Bike For Dad ปั่นเพื่อพ่อ ในวันที่ 11 ธันวาคมนี้ ว่าการซักซ้อมที่ผ่านมาในเส้นทางจริงและเส้นทางสิริมงคลแต่ละจังหวัด รวมทั้งการรับของพระราชทานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยในวันที่ 11 ธันวาคม ได้จัดเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเตรียมการพร้อมแล้ว 100% พร้อมขอให้ประชาชนที่ร่วมกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อ พักผ่อนให้เพียงพอในวันหยุดสุดสัปดาห์ ซักซ้อม เตรียมพร้อมร่างกายและจักรยานเพื่อการนี้ด้วย
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงการเข้าร่วมประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยน แปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 21 (COP 21) ว่าไทยได้แสดงจุดยืนในการร่วมแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศและขอให้ทุกประเทศผลักดันให้การเจรจาความตกลงด้านการเปลี่ยน แปลงสภาพภูมิอากาศฉบับใหม่บรรลุผลที่สมดุล โดยคำนึงถึงความแตกต่างของสภาพเศรษฐกิจ การพัฒนาที่มีความแตกต่าง และความสามารถในการรับมือของแต่ละประเทศ
"การพัฒนาประเทศที่มีความแตกต่าง มีช่องว่างในการพัฒนาอยู่ เพราะฉะนั้นการกำหนดอะไรต่างๆ ก็ตามต้องกำหนดมาในลักษณะที่ความเป็นจริง แต่ละประเทศนั้นจะทำอย่างไร เพราะว่าประเทศที่มีรายได้จากการเกษตร ส่วนใหญ่นั้นก็จำเป็นต้องมีการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมไปด้วย ก็ขอให้พิจารณาหลักเกณฑ์ต่างๆ ให้เหมาะสมแล้วก็เป็นการช่วยเหลือประเทศที่กำลังพัฒนาด้วย" นายกรัฐมนตรี กล่าว