จากข้อเสนอของนางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้งด้านกิจการพรรคการเมืองที่เสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 237 โดยการกำหนดให้มีบทลงโทษจากยุบพรรคเหลือเพียงตัดสิทธิ์ทางการเมือง โดยนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยมองว่าเป็นข้อเสนอที่ดี เนื่องจากจุดอ่อนของรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่ร่างโดยบุคคลที่มีอคติกับนักการเมือง ทำให้พรรคการเมือง นักการเมือง และประชาชน อ่อนแอ แต่ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับ ส.ส.ร.จะพิจารณา โดยพรรคเพื่อไทยจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว หรือชี้นำการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ขณะที่นายเทพไท เสนพงษ์ กรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าพรรคไม่ขัดข้อง หากจะยกมาตรา 237 ขึ้นมาแก้ไขเพื่อให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย เนื่องจากการให้อำนาจยุบพรรคการเมือง จากการกระทำความผิดคณะกรรมการบริหารพรรค ถือว่าไม่ยุติธรรมสำหรับพรรคการเมืองที่มีสมาชิกพรรคเป็นเจ้าของพรรคร่วมกัน พร้อมกันนี้ ยังปฏิเสธข้อกล่าวหาที่พรรคถ่วงเวลาแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเล่นเกมการเมืองในคณะกรรมาธิการ
ด้านนายเสรี สุวรรณภานนท์ ในฐานะอดีตรองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ยืนยันถึงความจำเป็นที่กำหนดบทลงโทษยุบพรรค และการตัดสิทธิ์ทางการเมืองในรัฐธรรมนูญมาตรา 237 เพื่อป้องกันการทุจริตการเลือกตั้ง ซึ่งหลังมีผลบังคับใช้พรรคการเมืองมีความระมัดระวังมากขึ้น แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด โดยดูได้จากผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองยังคงอยู่เบื้องหลังคุมนโยบายพรรคอยู่ รวมถึงการลดจำนวนกรรมการบริหารพรรคลง เพื่อป้องกันการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองจากการยุบพรรค