จากกรณีที่มีการตั้งกระทู้ "กู้ศักดิ์ศรีเชียงใหม่ คืนพื้นที่ลานข่วงท่าแพ" ในเฟซบุ๊ก " รักษ์แม่ปิง" (Raks Mae Ping) เพื่อขอคืนพื้นที่ลาน "ข่วงประตูท่าแพ" สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาวเชียงใหม่ ซึ่งมีร้านขายสินค้า ร้านอาหาร รวมทั้งลานเบียร์ให้บริการนักท่องเที่ยว โดยเรียกร้องให้เทศบาลนครเชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับผิดชอบกับผลกระทบที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ ข้อมูลที่ถูกเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ ระบุว่า พื้นที่ข่วงท่าแพถูกนำไปจัดสรรแบ่งให้เช่าต่อล็อกต่อครั้ง ประมาณ 4,500 บาท จำนวน 300 ล็อก รวมเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 1,350,000 บาทต่อครั้ง และไม่พบว่ามีการออกใบเสร็จแต่อย่างใด
วันนี้ (6 ม.ค.2559) นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จะดำเนินการหาข้อเท็จจริงว่าผู้ใดรับผิดชอบและได้รับผลประโยชน์จากการเก็บค่าเช่าแผงดังกล่าว โดยเทศบาลนครเชียงใหม่ หน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลพื้นที่ข่วงประตูท่าแพ ได้ประกาศงดการใช้พื้นที่ดังกล่าว หลังจากที่เสร็จสิ้นการจัดงานประเพณียี่เป็งปี 2558 จนกระทั่งถึงการจัดงานเฉลิมฉลองเมืองเชียงใหม่อายุครบ 720 ปี จึงจะมีการพิจารณาอีกครั้ง ส่วนของการจัดงานถนนคนเดินในวันอาทิตย์ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกสัปดาห์ ยังคงให้จัดงานได้ตามเดิม แต่จะมีการพิจารณาให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องต่อการเฉลิมฉลองเมืองเชียงใหม่อายุครบ 720 ปี และอนุรักษ์เมืองเก่าด้วยขณะที่การตั้งร้านค้าแผงลอยบริเวณบันไดพญานาค วัดพระธาตุดอยสุเทพฯ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและทหารได้ขอคืนพื้นที่ธรณีสงฆ์เชิงบันไดพญานาค วัดพระธาตุดอยสุเทพฯ และดำเนินการจับสลากแผงค้าให้กลุ่มผู้ค้าเข้าพื้นที่ ย้ายแผงลอยทั้งหมดไปอยู่พื้นที่ใหม่ที่จัดสรรให้แทน