รองผู้ว่าฯกทม. คาดอุโมงค์ระบายน้ำพระราม 4 รั่วทำถนนยุบ
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า สาเหตุการทรุดตัวของถนนพระรามที่ 4 มีความเป็นไปได้ว่า เกิดจากระบบอุโมงค์ส่งน้ำของกรุงเทพมหานคร ที่มีอายุการใช้งาน 40 ปี และอยู่ลึกลงไปใต้ดินกว่า 18 เมตร เกิดชำรุดและมีรอยรั่ว ประกอบกับน้ำจากระดับผิวดิน หรือน้ำในระบบท่อประปาที่รั่วซึม จนชะล้างทรายใต้ผิวจราจร ไหลไปตามอุโมงค์ระบายน้ำ เบื้องต้นสั่งการให้สำนักการโยธา ตรวจสอบพื้นถนน โดยเฉพาะถนนที่อยู่ติดกับคลอง หรือคูระบายน้ำ เช่น ถนนพระราม 3 , ถนนสาธร และหากพบปัญหา จะทำการเปิดผิวจราจร และซ่อมแซมเบื้องต้นในระดับผิวดิน รวมถึงให้สำนักการระบายน้ำ ตรวจสอบการชำรุดของอุโมงค์ระบายน้ำด้วย
ส่วนการหารือร่วมกันระหว่าง 3 หน่วยงาน คือ สำนักการโยธา รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และการประปานครหลวงถึงสาเหตุที่ทำให้ถนนพระราม 4 ทรุดตัว เชื่อว่า ทรายที่หายไปกว่า 40-50 ลูกบาศก์เมตร มาจาก ระบบอุโมงค์ระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร เส้นทางจากหัวลำโพงถึงสถานีสูบน้ำวัดช่องลม ซึ่งสร้างมาตั้งแต่ปี 2515 มีลักษณะเป็นรูปไข่หรือวงรีขนาด 3 คูณ 3.5 เมตร อาจมีการเสื่อมสภาพหลังใช้งานมา 40 ปี ทำให้เกิดช่องโหว่ทำให้ทรายรั่วไหลเข้าไปได้
ทั้งนี้ กทม.จะจ้างบริษัที่ปรึกษา ซึ่งคาดว่าใช้เวลาตรวจสอบ 1-2 สัปดาห์ ดังนั้นจึงไม่เกี่ยวกับระบบท่อส่งน้ำประปาของ กปน. และจุดก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ของ รฟม. เนื่องจากทั้ง 2 หน่วยงานได้ตรวจสอบแล้ว ไม่พบข้อบกพร่องหรือความเสียหายของระบบแต่อย่างใด โดยอุโมงค์ระบายน้ำเก่าของกทม. มีทั้งหมด 3 อุโมงค์ คืออุโมงค์พระราม 4 , อุโมงค์อังรีดูนังต์ และอุโมงค์เสนานิคม จึงได้สั่งการให้สำนักการระบายน้ำ เร่งศึกษาและว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อเตรียมทำการซ่อมบำรุงอุโมงค์ระบายน้ำเก่าของกทม.ครั้งใหญ่ต่อไป เนื่องจากใช้งานมาเป็นเวลานาน เบื้องต้น จากการตรวจสอบย้อนหลัง พบว่า เคยเกิดเหตุลักษณะเดียวกันมาแล้ว 2 ครั้ง ตั้งแต่เริ่มใช้งานเมื่อปี 2515 โดยครั้งล่าสุดเกิดเมื่อปี 2522 เกิดหลุมลึกบริเวณถนนหน้าโรงแรมดุสิตธานี ซึ่งกทม.ได้สั่งการให้สำนักงานเขตปทุมวันและสำนักงานเขตสาทร ตรวจพื้นผิวจราจรตามจุดต่างๆ ว่าเกิดการทรุดตัวหรือไม่
