สตช.มอบชุดตรวจสอบสารซูโดอีเฟดรีนให้กรมศุลกากร ป้องกันนำเข้าจากต่างประเทศ
พ.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบชุดทดสอบหาสารซูโดอีเฟดรีน250 ชุดให้กับนายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมศุลกากร เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย หากมีการลักลอบนำเข้าประเทศผ่านด่านศุลกากร ทั้งนี้ อธิบดีกรมศุลกากรยอมรับว่า ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีการลักลอบนำเข้าสารซูโดอีเฟดรีนจากต่างประเทศ เช่น ประเทศเกาหลีใต้ เยอรมนี และอินเดีย โดยจะสำแดงเป็นสินค้าชนิดอื่นเพื่ออำพรางการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ ซึ่งหลังจากนี้กรมศุลกากรจะเข้มงวดในการตรวจสอบสารเคมีทุกชนิด
ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุข ได้เรียกประชุมชี้แจง กับสถานพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน คลินิก ร้านขายยา รวมถึงผู้ผลิตและผู้นำเข้า เกี่ยวกับมาตรการควบคุมยาซูโดอีเฟดรีน โดยให้จัดส่งยาซูโดอีเฟดรีนสูตรผสม เฉพาะสูตรผสมยาพาราเซตามอล คืนผู้ผลิต หรือ ผู้นำเข้า ภายในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ หากครบ 30 วันแล้วยังตรวจพบว่ามีการครอบครองยาชนิดนี้ จะมีโทษทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่ผู้ผลิตและผู้นำเข้าก็ต้องรายงานตัวเลขการครอบครองยาชนิดนี้ให้กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาทราบ โดยหลังจากวันที่ 3 พฤษภาคม หากพบมีการครอบครองยาชนิดนี้ ที่คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์แล้วไม่เกิน 5 กรัม มีโทษจำคุก 1-5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 100,000 บาท และถ้าเกิน 5 กรัม มีโทษจำคุก 5 - 20 ปี ปรับตั้งแต่ 100,000 – 400,000 บาท รวมทั้งจะประสานให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จัดทำคลังข้อมูลกลางในการเบิกจ่ายยาชนิดนี้ เพื่อช่วยควบคุมการใช้ยาและทำให้ตรวจสอบง่ายขึ้น ขณะที่สถานพยาบาลของต้องจัดทำรายงานการเบิกจ่ายยาชนิดนี้ส่งให้ อย. ทุกเดือน ส่วนคลินิกและสถานพยาบาลเอกชน นอกจากต้องจัดทำรายงานการใช้ยาแล้ว ยังต้องขอใบอนุญาตการครอบครองยาชนิดนี้จาก อย. อีกด้วย