อียูระงับคว่ำบาตรพม่า 1 ปี
ที่ประชุมสหภาพยุโรป ประเทศลักเซมเบิร์ก ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่าคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปตกลงระงับการคว่ำบาตรพม่าเป็นเวลา1 ปี โดยระงับมาตรการคง่ำบาตรที่บังคับใช้กับชาวพม่า 500 คนและบริษัทกว่า 800 แห่งแต่ยังคงมาตราการห้ามพม่าค้าอาวุธ เพื่อเป็นกำลังใจและส่งเสริมให้พม่าเดินหน้าปฎิรูปต่อไป โดยภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอของพม่าจะได้รับผลประโยชน์จากการระงับการคว่ำบาตรครั้งนี้ด้วย ซึ่งนายกสมาคมผู้ผลิตสิ่งทอ กล่าวว่าจะช่วยให้พม่ามียอดสั่งซื้อสิ่งทอเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 และมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 25,000 ตำแหน่ง หลังจากอุตสาหกรรมสิ่งทอพม่าซบเซาอย่างหนักเพราะได้รับผลกระทบจากสหรัฐอเมริกาและยุโรปคว่ำบาตร จนส่งผลให้โรงงานสิ่งทอเกือบทั้งหมดในนครย่างกุ้งปิดตัวลง
ด้านนายอัลเฟรโด้ เปิดดิกูเอโร จากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย มองว่าการระงับการคว่ำบาตรของอียูเป็นผลทางการเมืองมากกว่าเศรษฐกิจเพราะอียูเป็นตลาดขนาดเล็กสำหรับพม่า
ขณะที่การเมืองพม่าเริ่มไม่ราบรื่นตั้งแต่วันแรกที่เปิดสภาภายหลังการเลือกตั้งซ่อม เนื่องจากนางออง ซาน ซูจี ผู้นำเรียกร้องประชาธิปไตยในพม่าและสมาชิกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ เอ็นแอลดี อีก 42 คนไม่เข้าร่วมประชุม หลังจากรัฐบาลไม่แก้ไขถ้อยคำสาบานตนรับตำแหน่ง สส ตามที่นางซูจีและพรรคร้องขอให้เปลี่ยนจากคำว่า ปกป้องรัฐธรรมนูญ เป็น เคารพรัฐธรรมนูญ เพราะเห็นว่ารัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย จากการระบุให้ทหารมีสัดส่วนที่นั่งในสภาร้อยละ 25 ซึ่งนายญาณ วิน โฆษกพรรค เชื่อว่าข้อขัดแย้งน่าจะยุติได้ภายใน 10 วัน ส่วนพลเอกเต็งเส่ง ประธานาธิบดีพม่า เปิดทางว่ารัฐบาลต้องการร่วมมือกับนางซูจี และจะไม่มีการกลับลำปฏิรูปใดๆการที่จะเข้าสภาหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนางซูจีเอง พร้อมย้ำว่านางซูจีควรทำงานเพื่อประชาชนมากกว่าพรรค ส่วนจะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความเห็นของประชาชน