ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ฟุตบอลยูโร 2012 ส่งคอบอล คนกรุงเทพฯ กระจายรายได้สู่ภาคธุรกิจ 7,000 ล้านบาท

เศรษฐกิจ
21 มิ.ย. 55
12:48
23
Logo Thai PBS
ฟุตบอลยูโร 2012 ส่งคอบอล คนกรุงเทพฯ กระจายรายได้สู่ภาคธุรกิจ 7,000 ล้านบาท

ฟุตบอลยูโร 2012 ได้ผ่านการแข่งขันรอบแรกไปเรียบร้อยแล้วจาก 16 ทีม ก็เหลือ 8 ทีมเพื่อเข้าสู่การแข่งขันรอบก่อนรองชนะเลิศ ที่จะเริ่มในเช้าวันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน 2555

ตลอดการแข่งขันรอบแรกเกือบ 2 สัปดาห์ คนไทยต่างมีการติดตามเชียร์และชมการแข่งขันกันอย่างมาก และคาดว่าจะคึกคักมากยิ่งขึ้นในรอบต่อไป เนื่องจากทีมฟุตบอลที่เข้ารอบ ล้วนแล้วแต่เป็นทีมที่นิยมของแฟนฟุตบอลไทย ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมนี และสเปน ทำให้คาดว่าเม็ดเงินสะพัดในช่วงฟุตบอลยูโร 2012 น่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่หลายๆธุรกิจ ต่างงัดกลยุทธ์ออกมากระตุ้นตลาดในช่วงนี้กันอย่างคึกคัก 

 
โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้สำรวจ “พฤติกรรมการติดตามฟุตบอลยูโร 2012 ของชาวกรุงเทพฯ” พบว่า จะมีคนกรุงเทพฯ ติดตามชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันถึงกว่า 2.9 ล้านคน โดยแฟนบอลกรุงเทพฯ สนใจติดตามชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2012 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟุตบอลยูโรปี 2008 ทั้งนี้ พบว่า คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่จะเลือกชมตามวันเวลาที่สะดวกมากที่สุด ซึ่งเป็นผลจากแฟนบอลส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มคนวัยรุ่น/วัยทำงาน ซึ่งจะมีภารกิจทั้งการเรียนและการทำงาน สำหรับสถานที่ติดตามชมการถ่ายทอดสด พบว่า กลุ่มตัวอย่างจะยังคงให้ความนิยมในการชมการถ่ายทอดสด ณ สถานที่พักอาศัยส่วนตัว อย่างที่พักของตนเองและที่พักของเพื่อน เนื่องจากเป็นสถานที่ๆสามารถรับชมและส่งเสียงเชียร์ได้อย่างเต็มที่ 
 
ขณะที่การเข้าไปรับชมที่ร้านอาหารและสถานบันเทิง มีการปรับลดลงจากการแข่งขันฟุตบอลยูโรครั้งก่อน ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะภาวะค่าครองชีพ ราคาอาหารและสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ผู้ชมส่วนใหญ่ต้องการที่จะลดค่าใช้จ่ายจากการออกไปรับชมนอกบ้าน โดยสื่อที่เป็นช่องทางหลักในการรับชมยังคงเป็นโทรทัศน์ แต่พบว่า สื่ออินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้รับความนิยมมากขึ้น
 
จากผลการสำรวจยังพบอีกว่า การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 ในครั้งนี้ คาดว่า คนกรุงเทพฯ ที่ติดตามชมการแข่งขันจะมีเม็ดเงินใช้จ่ายกระจายไปสู่ธุรกิจกลุ่มต่างๆ ตลอดช่วงเกือบ 1 เดือนที่มีการแข่งขัน คิดเป็นมูลค่าถึง 7,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม 2,800 ล้านบาท (ร้อยละ 40.0) โทรทัศน์ 1,800 ล้านบาท (ร้อยละ 25.7) โทรศัพท์เคลื่อนที่ 900 ล้านบาท (ร้อยละ 12.9) เครื่องรับสัญญาณภาพ 500 ล้านบาท (ร้อยละ 7.1) อุปกรณ์กีฬาและชุดกีฬา 700 ล้านบาท (ร้อยละ 10.0) และอุปกรณ์การเชียร์และของที่ระลึก 300 ล้านบาท (ร้อยละ 4.3) 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง