ตรวจสอบการบุกรุกป่าพรุหลังถูกไฟไหม้ พบการลักลอบทำถนนเข้าป่า
เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลการะเกด อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าบ้านบ่อล้อ เข้าตรวจสอบถนนขนาดเล็กเชื่อมกับที่ดิน สปก.ของชาวบ้านริมถนนเลียบคลองระบายน้ำชะอวด-แพรกเมือง พบว่าถนนเส้นนี้มีความกว้างพอดีกับรถยนต์ สามารถลัดเลาะเข้าไปในป่าละเมาะ พบถนนอีกเส้นที่มีกว้างกว่า 8 เมตร สองข้างทางยังพบร่องรอยของรถเกรดล้อยางไถต้นเสม็ดราบ เพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน และบางจุดมีร่องรอยของการจุดไฟลุกลามเข้าไปในป่าพรุ
นายอภิเชษฐ์ พรัดชู ผู้ช่วยนักพัฒนาชุมชน อบต.การะเกด ระบุว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่เคยจัดสรรงบก่อสร้างถนน เนื่องจากเป็นป่าพรุตั้งอยู่เขตป่าสงวนแห่งชาติ เช่นเดียวกับ นายธีระวุฒิ นุ่นสังข์ หัวหน้าเขตห้ามล่าพันธ์สัตว์ป่าบ้านบ่อล้อ ระบุการตรวจพิกัดทางดาวเทียม พบบริเวณดังกล่าวที่สร้างถนนเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ ที่มีการบุกเบิกทำถนนเข้าไปด้วยการทำลายผืนป่า จุดที่สิ้นสุดของถนนเป็นสวนปาล์มน้ำมันในที่ดิน สปก.ของนายทุนรายหนึ่ง
จากนี้เจ้าหน้าที่จะแจ้งความดำเนินคดีทางอาญากับเจ้าของ สปก.แปลงสุดถนน และในส่วนของการทำลายป่านั้นจะดำเนินคดีแยก ขณะเดียวกันจะมีการพิจารณาตามมาตรา 25 แห่ง พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ เข้าทำลายถนนเส้นนี้ สำหรับความเสียหายของป่าพรุควนเคร็งที่ถูกไฟไหม้มากว่าสองสัปดาห์ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะดับไฟได้เมื่อวานนี้ ประเมินว่ามีพื้นที่เสียหายประมาณ 2,000-3,000 ไร่ จากทั้งหมดกว่า 200,000 ไร่ โดยข้อมูลที่ได้เจ้าหน้าที่จะรวบรวมเสนอที่ประชุมแผนปฏิบัติการยุทธศาสตร์ทวงคืนผืนป่านครศรีธรรมราชในวันพรุ่งนี้ (2 ก.ค.)