ในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติปรากฏว่า จีนและรัสเซียยังคงใช้สิทธิยับยั้ง หรือวีโต้มติแซงค์ชั่นฉบับใหม่ที่จะออกมาใช้กับซีเรีย โดยมติที่ตกไปแล้วนี้เขียนขึ้นตามความในข้อบทที่ 7 ของกฏบัตรสหประชาชาติ ซึ่งประเด็นนี้ทำให้รัสเซียและจีนคัดค้านจนถึงที่สุด
โดยข้อบทที่ 7 ของกฏบัตรสหประชาชาติให้อำนาจในการแซงค์ชั่นหรือมาตรการลงโทษที่ไม่มีการใช้กำลังก่อน แต่หากต่อไปมีการทำผิดเงื่อนไขก็สามารถใช้กำลังทหารนานาชาติเข้าแทรกแซ่งได้ ซึ่งอังกฤษ ฝรั่งเศส และสหรัฐฯ ที่เป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงเช่นเดียวกันกับรัสเซียและจีนกล่าวหาว่า สหประชาชาติสร้างความผิดหวังให้กับประชาชนชาวซีเรีย
ขณะที่รัฐบาลซีเรียส่งเฮลิคอปเตอร์ และรถถังจำนวนมากออกมากวาดล้างฝ่ายกบฏในกรุงดามัสกัส ซึ่งผู้สันทัดกรณีระบุว่า นับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลใช้รถถังออกมาโจมตีอาณาเขตภายในเมืองหลวง โดยรัฐบาลประกาศเมื่อวานนี้ (19 ก.ค.55) ว่า จะกวาดล้างผู้ก่อการร้ายให้หมดสิ้นภายในเวลา 48 ชั่วโมง ก่อนที่จะเข้าเทศกาลรอมฎอนในวันนี้ (20 ก.ค.55)
การปะทะกันระหว่างทหารฝ่ายรัฐบาลกับกองกำลังฝ่ายกบฏเกิดขึ้นอย่างดุเดือดหลายจุดทั่วกรุงดามัสกัส โดยผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า มีสถานีตำรวจแห่งหนึ่งถูกฝ่ายกบฏยึดได้ก่อนที่จะล่าถอยในเวลาต่อมา นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ฝ่ายกบฏได้ยึดช่องทางผ่านแดนหลายแห่งที่ติดกับตุรกี และอิรัก ซึ่งในเวลาเดียวกัน พล.อ.ฟาฮัด จัสซิม อัล ฟูเรญี หัวหน้าเสนาธิการของเหล่าทัพได้สาบานตนต่อประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซ๊าด เข้าเป็นรัฐมนตรีกลาโหมแทนคนเก่าที่ถูกสังหารด้วยระเบิดไปเมื่อวันก่อน