จับแล้ว! "น้องพารา" จระเข้น้ำเค็ม 2.4 เมตรโผล่ขุมเหมืองภูเก็ต จับแล้ว! "น้องพารา" จระเข้น้ำเค็มยาว 3 เมตรโผล่ขุมเหมืองภูเก็ต หลังทีมประมง ทีมไกรทองตามจับตัวพบเป็นตัวเมีย อายุ 6-7 ปี ยังไม่ปักใจจระเข้ธรรมชาติ ประกาศตามหาเจ้าของ
ระดมล่า! จระเข้น้ำเค็มยาว 2 ม.โผล่ขุมเหมืองเก่าภูเก็ต ประมงภูเก็ต-ทีมไกรทอง ระดมล้อมจับจระเข้น้ำเค็มความยาว 2 เมตรโผล่ขุมเหมืองเก่าเอกชนในอ.ถลาง คาดอายุ 4-5 ปี แต่ยังจับไม่ได้
จระเข้น้ำเค็มยาว 4 เมตร นอนเกยตื้นในร่องน้ำป่าชายเลนชาวบ้านช่วยกันจับได้แล้ว จระเข้น้ำเค็มยาว 4 เมตร นอนเกยตื้นในร่องน้ำป่าชายเลน อ.พุนพิน สุราษฎร์ธานี หลังพยายามตามจับนานกว่า 1 เดือน
"ออสเตรเลีย" จับจระเข้ยักษ์ยาวเกือบ 5 เมตร ออสเตรเลียจับจระเข้น้ำเค็มยักษ์ ความยาว 4.70 เมตร น้ำหนัก 600 กิโลกรัม อายุ 60 ปี ซึ่งถือเป็นหนึ่งในจระเข้ที่ตัวใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกสถิติไว้
ผลตรวจ DNA "จระเข้เลพัง” เป็นลูกผสมน้ำเค็ม-น้ำจืด ส่งถึงกรมประมงแล้วกรมอุทยาน ส่งผลตรวจพันธุกรรมจระเข้น้ำเค็ม "เลพัง"ที่ตรวจสอบโดยทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหิดล -เกษตรศาสตร์ ให้อธิบดีกรมประมงแล้ว สรุปเป็นลูกผสมสายพันธ์ุ์น้ำเค็มและน้ำจืด แต่ยังรอฟังผลแถลงอย่างเป็นทางการจากกรมประมง
ตรวจ DNA "จระเข้เลพัง" หาสายพันธุ์ที่แท้จริง คาดรู้ผลใน 1-2 สัปดาห์ เจ้าหน้าที่ตรวจดีเอ็นเอ "จระเข้เลพัง" วิเคราะห์หาสายพันธุ์ที่แท้จริง พร้อมฝังชิพระบุตัวตน คาดใช้เวลาตรวจสอบ 1-2 สัปดาห์ ก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ
"change.org" รณรงค์ขอรายชื่อปล่อยจระเข้น้ำเค็ม “เลพัง”สื่อสังคมออนไลน์ change.org ล่ารายชื่อเพื่อขอเสียงสนับสนุนยื่นเสนอต่อกรมประมง เพื่อปล่อยจระเข้น้ำเค็ม “เลพัง” เนื่องจากเป็นสัตว์ป่าภายใต้บัญชี 1 ไซเตส และสามารถจัดการให้สัตว์หายากอยู่ร่วมกับคนได้
โซเชียลรณรงค์"ปล่อยจระเข้คืนธรรมชาติ"-ผวจ.ภูเก็ตเร่งหาหน่วยงานดูแล ผวจ.ภูเก็ต ยืนยันจระเข้ที่จับได้ในขุมเหมือง เป็นจระเข้น้ำเค็ม และขณะนี้อยู่ระหว่างประสานกรมประมงในการเคลื่อนย้าย พร้อมสั่งการให้ประมงจังหวัดตรวจสอบหาแหล่งที่มาของจระเข้ตัวนี้ ด้านกลุ่มคนอนุรักษ์ รณรงค์ผ่านโซเชียล ปล่อยจระเข้คืนธรรมชาติ
เปิดภารกิจชุด "ไกรทองลุ่มแม่น้ำตาปี "จระเข้ ที่ถูกพบว่ายน้ำใกล้กับชายหาดเชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต วันนี้ถูกจับได้แล้ว ปฏิบัติการครั้งนี้ใช้เวลา 2 วัน 2 คืน ออกค้นหาจากเบาะแสของชาวบ้าน ด้วยการวางแผนแบบเป็นขั้นตอนจากทีม “ไกรทองลุ่มแม่น้ำตาปี"