ที่ประชุมองค์การยูเนสโก มีมติรับรองให้ขึ้นทะเบียนต้มยำกุ้งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ประจำปี 2567 ต่อจากรายการโขน นวดไทย โนรา และสงกรานต์ เนื่องจากต้มยำกุ้งสะท้อนให้เห็นถึงวิถีการดำเนินชีวิต ของคนไทยที่เรียบง่าย มีสุขภาวะทั้งกายและใจที่แข้งแรง ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ระบุว่า ต้มยำกุ้งไม่ใช่แค่เพียงอาหารแต่ยังเป็นตัวแทนของความรู้ทางวัฒนธรรมและความเชี่ยวชาญด้านการทำอาหารของประเทศไทย
หลังองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ประกาศรับรองให้ ต้มยำกุ้ง ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการร้านอาหาร เพราะจะช่วยส่งเสริมให้ผู้คนทั่วโลกรู้จักเมนูนี้มากขึ้น
“ต้มยำกุ้ง” ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒธรรมที่จับต้องไม่ได้จาก “ยูเนสโก” ด้าน ร้านอาหารหลายแห่งต่างดีใจ เพราะจะช่วยส่งเสริมให้ผู้คนทั่วโลกรู้จักเมนูนี้มากขึ้น โดยมองว่า ต้มยำกุ้ง ถือเป็นเมนูที่ควรค่าแก่การเชิดชู เพราะเป็นภูมิปัญญาของคนไทยอย่างแท้จริง