แม้กลุ่มทุนยาไท่ ในพื้นที่เมืองใหม่ชเวโก๊กโก่ รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา จะประกาศยกเลิกการทำธุรกิจ ภายในวันที่ 20 ก.ย. 67 แต่หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ระบุว่า ยังไม่ได้รับการประสานงานการส่งพนักงานกลับประเทศ และเชื่อว่ากลุ่มทุนจีนยังคงมีการดำเนินธุรกิจ ในเมืองใหม่ชเวโก๊กโก่ต่อไป
ขณะที่ไทยกำลังเผชิญกับสินค้าจีนที่เข้ามาตีตลาดอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการไทยต่างดิ้นเพื่อหาวิธีเอาตัวรอดจาก "ทุนจีน" อีกด้านหนึ่งก็ยังคงคาดหวังพายุหมุดจากนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต เพราะเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ได้ แม้กระทั่งในมิติของการลงทุนเอง ก็ดูเหมือนว่า "ไทย" จะไม่ได้เนื้อหอมพอที่จะดึงดูดการลงทุนเฉกเช่นเดิม สนทนากับ รศ.ดร. สมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดีสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์
หากสังเกตตามห้างสรรพสินค้า จะมีเครื่องปรับอากาศเข้ามาวางจำหน่ายอยู่หลายแบรนด์ และราคาก็จะมีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะแบรนด์ของจีนจะมีราคาถูก เพราะได้เปรียบเรื่องต้นทุนการผลิต ปัญหาก็คือ เมื่อมีสินค้าราคาถูกของต่างชาติเข้ามาตีตลาดในไทยมากขึ้น ก็จะส่งผลทำให้ความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยลดลง นำไปสู่การปิดตัวของกิจการ
ยังคงพบการช่วยเหลือกลับไทยอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ หลังถูกหลอกไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน กรณีล่าสุด มี "หญิงไทย" คนหนึ่งถูกทำร้ายจนกะโหลกศีรษะร้าว ขณะบังคับค้าประเวณี ที่น่าสนใจ คือ พบเส้นทางว่า "นายหน้าสัญชาติเมียนมา" เดินทางเข้ามารับตัวถึงสนามบินเชียงใหม่ ก่อนนำขึ้นรถ ไปขายต่อให้นายจ้างทุนจีน ในเมืองเล้าก์ก่าย ของเมียนมา