นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์และ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เข้าพบพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ หลังจากดีเอสไอมีความเห็นว่า นายชินวรณ์มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมกันทุจริตการจัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวศึกษา ภายใต้โครงการแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยเข้มแข็งระยะที่ 2 ในวงเงินงบประมาณ 5,300 ล้านบาท
รวมถึงยังพบว่ามีการแต่งตั้งบุคคลใกล้ชิดเป็นคณะกรรมการจัดหาครุภัณฑ์ จัดซื้อราคาแพงเกินจริง ไม่ตรงตามสัญญา ไม่สำรวจความต้องการของสถานศึกษา และไม่มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม โดยถือว่า เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 และกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ พ.ศ.2535 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
นายชินวรณ์ เปิดเผยว่า ได้เข้ามาชี้แจงในฐานะพยาน และยืนยันว่านางสาวนริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งหลังจากพบว่ามีการทุจริตได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ โดยมีนายธงทอง จันทรางศุ เป็นประธานการตรวจสอบ แต่มีการยุบสภาผู้แทนราษฏรเสียก่อน ทำให้การตรวจสอบยังไม่แล้วเสร็จ พร้อมได้นำเอกสารทางราชการเกี่ยวกับการจัดซื้อครุภัณฑ์มอบมอบให้พนักงานสอบสวนด้วย
ขณะที่ พ.ต.ท.ถวัลย์ มั่งคั่ง ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ยังไม่มีการแจ้งข้อหากับนายชินวรณ์ เนื่องจากเป็นอำนาจหน้าที่ของ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ในการชี้มูลความผิด
ส่วน น.ส.นริศรา นายเจี่ยง วงศ์สวัสดิ์สุริยะ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการอาชีวศึกษา และ นายบำรุง อร่ามเรือง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา ได้ให้ตัวแทนนำเอกสารมามอบให้เจ้าหน้าที่แล้ว ซึ่งดีเอสไอจะรวบรวมคำให้การและพยานหลักฐานมอบให้ ป.ป.ช.ในวันจันทร์ที่ 3 ธันวาคมนี้