ทีมกฎหมายไทยย้ำทำหน้าที่ดีที่สุด
ในช่วงเช้าวันนี้ คณะทำงาน และทีมกฎหมายไทย นำโดย นายวีรชัย พลาศัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยทีมกฎหมายไทยมั่นใจในการทำหน้าที่แถลงด้วยวาจาต่อสู่คดีพระวิหารอย่างเต็มที่
ด้านนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับนายฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาก่อนเดินทางกลับ และได้ทำความเข้าใจกันว่าไม่ว่าคำตัดสินของศาลเป็นอย่างไร จะไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ไทย กัมพูชา เพราะได้แยกแยะเรื่องคดี และเรื่องความสัมพันธ์คนละส่วน และหลังจากนี้จะนำคำแถลงต่อศาลโลกมาตีพิมพ์อธิบายความให้ประชาชนเข้าใจขึ้น
ส่วนทนายความชาวต่างชาติที่เหลือจะทยอยเดินทางมาในช่วงบ่ายวันนี้คือ ศ.โดนัลด์ เอ็ม แม็คเรย์, ศ.เจมส์ ครอว์ฟอร์ด ส่วน ศ.อแลง แปลเล่ต์ และ น.ส.อลิน่า มิรอง จะเดินทางถึงพรุ่งนี้เช้า ก่อนที่ทั้งหมดจะเข้าพบนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อสรุปการแถลงด้วยวาจาต่อศาลโลกในช่วงบ่ายก่อนที่จะแถลงข่าวร่วมกัน
ด้านายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ทางพรรคขอชื่นชมการทำงานของทีมทนายฝ่ายไทย ข้าราชการกระรวงการต่างประเทศ และข้าราชการทหารที่ทำงานด้านแผนที่ ตลอดจนผู้ทำงานเบื้องหลังที่มีการเตรียมข้อมูลต่อสู้คดีเป็นอย่างดี ภายใต้การนำของเอกอัครราชทูตวีรชัย จากนี้ ขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการใน 3 กรณี คือ กระทรวงการต่างประเทศต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ในทุกแง่มุมต่อประชาชน ต้องระมัดระวังท่าทีของรัฐบาล เพื่อไม่ให้มีการนำพฤติกรรมใดๆ ทั้งตรง ทางอ้อม ไปเป็นเหตุผลในการวินิจฉัยของศาลโลก และถึงแม้ว่าผู้นำไทย และกัมพูชาจะมีความสัมพันธ์พิเศษต่อกันก็ตามก็ต้องระมัดระวังท่าทีของกัมพูชา เป็นพิเศษด้วย ซึ่งนับจากนี้ จนถึงวันพิพากษา ขอให้นายกรัฐมนตรีตระหนักถึงท่าที เพื่อให้การพิจารณาคดีออกมาในทางที่เหมาะสม